ครม. เคาะ ‘เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ นั่ง ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติ’ คนที่ 21 ส่องโปรไฟล์

ครม. เคาะ ‘เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ นั่ง ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติ’ คนที่ 21 ส่องโปรไฟล์

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เปิดเผยว่า ได้เสนอชื่อ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ กรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และที่ปรึกษาเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และนายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. ให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะรักษาการ รมว.การคลัง พิจารณาคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา

“คนที่เลือกผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่ คือ รมช.การคลัง และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยสุดท้ายจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ ส่วนจะเข้าสู่การประชุม ครม. วันนี้หรือไม่ คงตอบไม่ได้ แต่โดยส่วนตัวคิดว่านายเศรษฐพุฒิ จะได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่” นายรังสรรค์ กล่าว

ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบให้ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ตามที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอเป็นที่เรียบร้อย

โดยนายเศรษฐพุฒิจะดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ธปท.แทนนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระในวันที่ 30 ก.ย.นี้

Advertisement

สำหรับประวัติ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ถูกจับตาในฐานะนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ ที่โดดเด่นของยุคสมัย เป็นนักเรียนนอก

จบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จาก Swarthmore College สหรัฐอเมริกา ก่อนศึกษาจบปริญญาโท และ ปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากนั้นก็ทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ช่วงปี 2529 – 2531 โดยเป็นที่ปรึกษาธุรกิจเชิงกลยุทธ์ใน Mckinsey (แมคคินเซย์) และช่วงปี 2535 – 2541 เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ธนาคารโลก (World Bank) ก่อนถูกดึงมานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการร่วม สถาบันวิจัยนโยบายการคลัง (สวค.) หน่วยงาน “Think Thak” มันสมองของกระทรวงการคลัง ช่วงปี 2541 – 2543 ช่วงที่ประเทศไทยต้องกู้เงินกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

Advertisement

ซึ่งผู้อำนวยการร่วม สวค. ในขณะนั้นก็คือ “วิรไท สันติประภพ” ผู้ว่าการ ธปท. คนปัจจุบันที่กำลังจะครบวาระดำรงตำแหน่งในสิ้นเดือนกันยายนนี้

“เศรษฐพุฒิ” กลับไปทำงานที่ธนาคารโลกอีกครั้ง ช่วงปี 2544 – 2547 ก่อนจะกลับมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในปี 2548 – 2550

จากนั้นช่วงปี 2550 – 2551 ก็ไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) และขยับขึ้นเป็นกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) ช่วงปี 2551 – 2552 ตลอดจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ของธนาคารไทยพาณิชย์ ช่วงปี 2552 – 2554

หลังจากออกจากธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิแอดไวเซอร์ จำกัด ช่วงปี 2554 – ม.ค. 2561 ระหว่างนั้นก็นั่งเป็นกรรมการ ธนาคารทหารไทยอยู่ 2 ปี คือในปี 2554 – 2555

หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ถูกเว้นวรรคทางการเมือง ต่อมาก็ได้จัดตั้ง “สถาบันอนาคตไทยศึกษา” ขึ้นมา โดยได้ดึง “เศรษฐพุฒิ” เข้ามานั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหารสถาบัน ช่วงปี 2555 – 2560 และเมื่อ “สมคิด” กระโจนเข้าสู่การเมืองอีกครั้งในยุค คสช. “เศรษฐพุฒิ” ก็เข้ามามีบทบาททั้งกับภาคการเมือง และภาคเศรษฐกิจการเงินของประเทศมากขึ้น

หลังจากบ่าย-เบี่ยง ตำแหน่งทางการเมืองมาตลอด 5 ปี ก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 เพียง 3 วัน เขาถูกแต่งตั้งเป็น 1 ใน 6 ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พร้อมกับ นายดิสทัต โหตระกิตย์, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, นายปิติ ตัณฑเกษม, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image