‘นพ.ยง’ เปิดข้อมูลทำความเข้าวิวัฒนาการเชื้อโควิด-19 ของแต่ละสายพันธุ์

‘นพ.ยง’ เปิดข้อมูลทำความเข้าวิวัฒนาการเชื้อโควิด-19 ของแต่ละสายพันธุ์

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “นพ.ยง ภู่วรวรรณ“ระบุว่า “วิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยากทำความเข้าใจและช่วยเผยแพร่ให้ถูกต้อง การแยกสายพันธุ์ของไวรัสเกิดจากวิวัฒนาการของเชื้อตามรูปที่เขียนให้ดู

ไวรัสเริ่มต้นจากจีนจะมี 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์เอส S (Serine) และสายพันธุ์ L (Leucine)
สายพันธุ์ L แพร่กระจายมีลูกหลานได้มากกว่าสายพันธุ์ S โดยเฉพาะเมื่อออกนอกจีนไปถึงยุโรป
สายพันธุ์ L แพร่กระจายได้ดีออกลูกหลานเป็นสายพันธุ์ G (Glycine) และสายพันธุ์ V (Valine)
สายพันธุ์ G แพร่กระจายได้ง่ายตามหลักวิวัฒนาการ จึงกระจายไปทั่วโลกอย่างกว้างขวาง มีลูกหลานของสายพันธุ์ G มาเป็นสายพันธุ์ GR (Arginine) และ GH (Histidine)
นักวิทยาศาสตร์ศึกษาพบว่าสายพันธุ์ G ระบาด ได้ง่ายแพร่กระจายได้เร็วแต่ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของโรคและระบบภูมิต้านทาน ไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวัคซีน ขณะนี้อัตราการครอบคลุมสายพันธุ์ G เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนมาเป็นเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่นี้ทั่วโลกจึงเป็นสายพันธุ์ G
ย้อนกลับมาระบาดในประเทศไทย เมื่อระลอกแรกถึงแม้จะพบได้ทุกสายพันธุ์เพราะมีการเดินทาง แต่สายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศไทยในระลอกแรกเป็นสายพันธุ์ S ขณะนี้การตรวจไวรัสในผู้ที่อยู่ในที่กักกันของรัฐหรือที่เรียกว่า State quarantine โดยศูนย์เชี่ยวชาญด้านไวรัสของจุฬาฯพบว่าเป็นสายพันธุ์ G เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะมาจากตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา สายพันธุ์นี้ไม่เกี่ยวข้องที่จะทำให้โรครุนแรงขึ้น ไม่เกี่ยวกับระบบภูมิต้านทาน เพียงแต่การกระจายง่ายๆจึงทำให้อัตราการพบส่วนใหญ่ของทั่วโลกเป็นสายพันธุ์ G อยู่ในขณะนี้”

โควิด 19 (2 สิงหาคม 2563)วิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยากทำความเข้าใจและช่วยเผยแพร่ให้ถูกต้อง…

โพสต์โดย นพ.ยง ภู่วรวรรณ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2020

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image