พณ.-หอค้า เดินหน้าจัดไทยเฟ้กซ์ ชี้โควิดแรงกระตุ้นออเดอร์

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย และ โคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมันี ผู้จัดแสงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ยังเดินหน้าจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มTHAIFEX-ANUGA ASIA 2020 ระหว่างวันที่ 22-26 กันยายน 2563 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี แต่ได้มีการปรับรูปแบบการจัดงานใหม่ในลักษณะไฮบริด เพื่อรองรับวิถีใหม่(นิวนอร์มอล)ที่ผสมผสานการจัดแบบจัดบูธแสดงสินค้าปกติและจัดแสดงสินค้าแบบผ่านระบบออนไลน์ที่เสมือนจริง โดยสั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกทำการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและติดต่อบริษัทผู้นำเข้าในแต่ลประเทศ เพื่อให้เกิดการเข้าชมบธูและสินค้าผ่านออนไลน์และสามารถทำการเจรจาได้ทันทีขณะชมสินค้าทางออนไลน์

นายสมเด็จ กล่าวต่อว่า เงินสะพัดในการจัดงานครั้งนี้ไม่อาจชี้ชัดได้ว่าจะเท่าการจัดงานครั้งก่อนๆที่มีมูลค่าเกิน 1.2 หมื่นล้านบาท จากที่มีบริษัทนำเข้าจากทั่วโลกและธุรกิจในไทยเข้างานกว่า 5 หมื่นราย และบริษัทใหญ่ในไทยเข้าแสดงสินค้ากว่า 1 พันราย แต่ในปีนี้ ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างและป้องกันแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็มีการลดพื้นที่และจำนวนบูธ โดยล่าสุดมีผู้ยื่นจำนงค์ร่วมแสดงสินค้าแบบออฟไลน์ทั้งสิ้น 708 บริษัท โดยเป็นผู้ประกอบการไทย 519 บริษัท และตัวแทนที่อยู่ในประเทศไทยของผู้ประกอบการต่างชาติจาก 15 ประเทศ 189 บริษัท

“ เบื้องต้นประเมินว่าจะเกิดการสั่งซื้อทันทีผ่านการเจรจาแบบออนไลน์ 1,500-2,000 ล้านบาท จากนั้นก็จะเกิดการสั่งซื้อกันต่อไป เชื่อว่ามูลค่าซื้อขายทั้งปีก็ไม่น่าจะน้อยกว่าปีก่อนๆ เพราะอาหารไทยกำลังเป็นที่ต้องการของผู้นำเข้าทั่วโลก  “ นายสมเด็จ กล่าว

นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ โคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย กล่าวว่า เพียงสัปดาห์เดียวหลังเปิดให้ผู้นำเข้าสินค้ายื่นความจำนงค์จะเข้าร่วมงานทั้งแบบมาเองหรือเจรจาบนออนไลน์ พบว่าจำนวนแล้ว 500 รายจากประเทศในยุโรป สหรัฐฯ และเอเชีย ส่วนใหญ่ต้องการสินค้าสำเร็จรูป สินค้าแปรรูปเพื่อสุขภาพ สมุนไพรไทย รวมถึงเครื่องดื่มแนวสมุนไพร อาจเพราะการแพร่ระบาดของโควิดทำให้คนทั่วโลกต้องการนำเข้าอาหารเพื่อสต๊อกและหาสินค้าเหมาะกับการป้องกันโรคมากขึ้น ซึ่งปกติเฉลี่ยผู้นำเข้า 1 รายจะเจรจากับผู้ค้าของไทย 5 ราย ก็เท่ากับจะเกิดเจรจาแล้ว 500 คู่ และเชื่อว่าต่อวันจะมีการเจรจา 4-5 หมื่นรายจากทั่วโลก

Advertisement

“  ไทยถือว่าเป็นประเทศเดียวที่จัดงานแสดงสินค้าแบบนี้ และจะกลายเป็นต้นแบบของการจัดงานแสดงสินค้าทั่วโลก ที่กำลังติดตามผลการจัดงานของไทยครั้งนี้ ซึ่งไทยพร้อมทั้งเรื่องการดูแลป้องกันเรื่องโควิด หลายรัฐบาล เช่น เยอรมัน บราซิล นอร์เวย์ ญี่ปุ่น จีน ให้การสนับสนุนที่จะให้บริษัทตัวแทนหรือเอเย่นต์ที่อยู่ในไทย เข้าร่วมงานและเจรจาการค้า “ นายภูษิต กล่าว

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าทุกสนามบินได้มีเที่ยวบินนำส่งสินค้าจากไทยไปทั่วโลกเพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สะท้อนถึงความต้องการอาหารไทยจากทั่วโลกในภาวะโควิด-19 ระบาดค่อนข้างสูง และเดิมแต่ละปีไทยจะส่งออกกลุ่มอาหารกว่า 1.25 ล้านล้านบาท เป็นอันดับแรกๆในเอเชีย และอันดับ 11 ของโลก มั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะส่งเสริมส่งออกอาหารและเครื่องดื่มไทย และทั่วโลกมั่นใจต่อการเป็นแหล่งผลิตอาหารป้อนโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image