ปรากฏการณ์ของ“แฟลชม็อบ” ตลอดวันศุกร์ที่ 7ต่อเนื่องมายัง วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม กำลังจะเป็นดัชนีชี้ไปยัง “แฟล็ชม็อบ”ในวันอาทิตย์ที่ 9 และวันอื่นๆของเดือนสิงหาคมอย่างเด่นชัด
ไม่ว่าจะเป็น ณ บริเวณหน้าสน.สำราญราษฎร์ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าสน.บางเขนและหน้าสน.ห้วยขวางตามลำดับ
และที่สุดก็รวมศูนย์ไปยังบริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน
ตลอดเวลาของการชุมนุมแม้จะมีการเอ่ยถึง “เยาวชนปลดแอก” ประสานเข้ากับ “สหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย”แต่สภาพก็เลื่อนไหลไปเหมือนกับมี ”มือที่มองไม่เห็น”ผลักรุน
เพราะเป็นการนัดกันผ่านออนไลน์ ผ่านเครือข่ายโซเชียล มีเดีย และในเบื้องต้นก็เป็นการชุมนุมโดยที่แทบมิได้ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อที่เรียกกันว่ากระแสหลัก
ไม่ว่าจะเป็นสื่อ “หนังสือพิมพ์” ไม่ว่าจะเป็นสื่อ “โทรทัศน์”ซึ่งเคยอยู่ในฐานะครอบงำและกำหนดทิศทางของ”ข่าว”
แต่ดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติผ่าน ”สื่อใหม่” โดยอัตโนมัติ
พิธีกรหลายสำนักข่าวที่เคยผ่านประสบการณ์แฟล็ชม็อบเมื่อเดือนธันวาคม 2562 สรุปว่าแฟล็ชม็อบเมื่อตอนเย็นวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม มีปริมาณและความคึกคักใกล้เคียงกัน
และที่เหมือนกันเป็นอย่างยิ่งก็คือ ด้านหลักเป็นมวลชนคนรุ่นใหม่ประสานเข้ากับคนรุ่นเก่าจำนวนหนึ่ง
และที่ทุกคนได้ยินก็คือเป้าหมายอยู่ที่วันที่ 16 สิงหาคม
หากเริ่มต้นจากความวิตกของทางการผ่านหมายจับที่พุ่งเป้าไปยัง นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก ที่ต้องการตัดไฟแต่ต้นลมในทางการเมือง
ก็ต้องยอมรับ “เป้าหมาย” นี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประสบความ ล้มเหลว เพราะไม่เพียงแต่ไม่สามารถดำเนินการอะไรกับ 2 คนนั้นได้ ตรงกันข้าม กลับกลายเป็นการเรียกแขกอย่างมโหฬาร
ทำให้การชุมนุมที่เชียงใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคมมีความเข้มข้น ทำให้การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันจันทร์ที่ 10 ยิ่งมีความเข้มข้น
จากสภาพการณ์อันปะทุขึ้นนับแต่วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคมเป็นต้นมาเท่ากับเป็นคำตอบว่า “แฟล็ชม็อบ”อันมีจุดเริ่มจากวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม จุดติดหรือไม่
และเตือนด้วยว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปสภาพการณ์จะยิ่งเกิดอัตรา”เร่ง”อย่างเร็วไวจนแทบจะเหลือเชื่อ