ดีเดย์ 10 สิงหาคมนี้ รถยนต์ไทยตกค้างในมาเลย์ส่งคืนไทยที่เส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2563 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อนุญาตให้คนไทยในประเทศมาเลเซียเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ภายใต้เงื่อนไขต้องลงทะเบียนผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และต้องมีใบรับรองแพทย์แบบ Fit to Traval เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลที่มีสภาพร่างกายพร้อมที่จะเดินทาง และสามารถเดินทางได้เฉพาะบุคคล ไม่สามารถนำยานพาหนะทุกชนิดเข้ามาในราชอาณาจักรได้ จะมีเฉพาะรถเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เท่านั้นที่สามารถสัญจรบนท้องถนนได้ โดยช่วงนั้นประเทศมาเลเซียได้ประกาศล็อกดาวน์ ปิดการคมนาคมทั้งหมด เช่นเดียวกับไทยที่ใช้วิธีขอความร่วมมือประชาชนอยู่บ้าน ปิดการเดินทางข้ามจังหวัด ทำให้คนไทยที่เดินทางจากมาเลเซียมาไทยก่อนช่วงล็อกดาวน์ดังกล่าวต้องทิ้งยานพาหนะไว้ที่มาเลเซีย โดยส่วนหนึ่งจอดไว้ที่บ้านญาติและเพื่อนฝูง แต่มีอีกจำนวนมากที่ต้องเช่าที่จอดรถในประเทศมาเลเซียซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 60-70 บาทต่อวัน ซึ่งขณะนี้ล่วงเลยมาประมาณ 4 เดือน ค่าใช้จ่ายสะสมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 7,000-8,000บาทต่อคัน ประกอบกับคนไทยน่าจะยังไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานในมาเลเซียได้อีกเป็นเวลาหนึ่ง
ล่าสุดนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า จังหวัดนราธิวาส และอำเภอสุไหงโก-ลกใช้ความพยายามหาทางช่วยเหลือประเด็นดังกล่าวมาโดยตลอด หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับชายแดนในระดับท้องถิ่นของอำเภอสุไหงโก-ลก และรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียมีการเจรจาและทำงานใกล้ชิดกันอย่างต่อเนื่องจนบรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะนำรถยนต์ของคนไทยในประเทศมาเลเซียกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดำเนินการดีเดย์นำรถยนต์จากประเทศมาเลเซียกลับเข้ามาในราชอาณาจักร วันแรก 10 สิงหาคม 2563 จำนวน 10 คันแรกจะเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ของอำเภอสุไหงโก-ลก จำนวน 5 คนที่จะเข้าไปรับรถยนต์ทั้งหมดบริเวณเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซียกลับสู่ประเทศไทย