นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ธุรกิจด้านการสนับสนุนและลงทุนในเทคโนโลยีนวัตกรรมและสตาร์ทอัพ กล่าวว่า บริษัทคงมุ่งเน้นการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพสตาร์ตอัพไทย พร้อมติดตามผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีต่อนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ของสตาร์ตอัพที่กรุงศรีได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง และนำมาทบทวนแผนการดำเนินธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้มั่นใจว่ากรุงศรี ฯและพันธมิตรสตาร์ตอัพจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและผสานศักยภาพแบบไร้รอยต่อสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมและแนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยกรุงศรี ฟินโนเวต ได้ปรับแผนการดำเนินการงานที่มุ่งเน้นในการสร้างพันธมิตรและลงทุนในสตาร์ตอัพที่มีโอกาสเติบโตและมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น อีโลจิสติกส์ (e-Logistics) การชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Payment) การให้บริการด้านซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นผ่าน และการส่งอาหาร เป็นต้น
นายแซม กล่าวว่า กรุงศรี ฟินโนเวต ได้ต่อยอดแนวทางการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและรองรับรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ New Normal ภายใต้กลยุทธ์การลงทุน 4 หลักการคือ1. การลงทุนเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Investment)2. การลงทุนโดยพิจารณาถึงผลตอบแทนในระยะยาว (Financial Returns)3. การลงทุนในเทคโนโลยีเพื่ออนาคต (Futuristic Investment) 4. การลงทุนใน Fund of Funds ทั้งนี้ กรุงศรี ฟินโนเวต ยังคงเดินหน้าพิจารณาโอกาสและความเป็นไปได้ในการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ยุโรป และในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตด้านนวัตกรรมสูงอย่างประเทศอิสราเอล โดยช่วงครึ่งหลังปี 2563 กรุงศรี จะมีการลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในสตาร์ตอัพ อีโคซิสเต็ม และมีสตาร์ตอัพเข้าร่วมโครงการแล้ว 40 บริษัท และล่าสุดร่วมลงทุนในบริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด ธุรกิตด้านการใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาระบบการทำงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย ให้สามารถเติบโต และรองรับกับทุกสถานการณ์ในอนาคต
