รู้ตัวแล้ว สาวแก้ผ้าหน้าศาลเจ้าพ่อประตูเชียงใหม่ เป็นครูสาวต่างชาติ แจ้งสถานทูตจัดการ
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่มีหญิงสาวชาวต่างชาติมีอาการคล้ายคนป่วยทางจิต นั่งเปลือยกายแก้ผ้าบนศาลเจ้าพ่อประตูเชียงใหม่ เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่าวันเกิดเหตุ สายตรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และตำรวจท่องเที่ยวได้นำหญิง สัญชาติบังกลาเทศ อายุ 28 ปี มาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อขอให้ส่งตัวเข้ารักษาตัวที่ รพ.สวนปรุง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เนื่องจากพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ นอนเปลือยกาย นอนบนถนนช้างม่อย ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นน่าเชื่อว่ามีอาการทางจิต พูดจาวกวน จึงจัดทำหนังสือส่งตัวพร้อมกับให้นำเข้ารักษาตัวที่ รพ.สวนปรุง โดยขณะทำการส่งตัวนั้น จนท.ของ รพ.สวนปรุง ไม่สามารถรับตัวหญิงสาวคนดังกล่าวได้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจรจากับเจ้าหน้าที่ รพ.สวนปรุง หญิงสาวคนดังกล่าว ได้แอบหลบหนีจาก รพ.สวนปรุง มาที่ประตูเชียงใหม่ ห่างจาก รพ.ประมาณ 500 เมตร
และมานอนเปลือยกายที่บริเวณดังกล่าวอีกครั้ง จากนั้นพลเมืองดีจึงแจ้งตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ทราบอีกครั้ง ต่อมา จนท.ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกับ จนท.มูลนิธิรวมใจ จึงได้ร่วมกันนำตัวส่ง รพ.สวนปรุง เพื่อตรวจรักษาอาการต่อไป
ล่าสุด หญิงสาวรายดังกล่าวอยู่ในระหว่างการรักษาตัวของ รพ.สวนปรุงแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 และอยู่เรื่อยมาด้วยวีซ่าการทำงาน เป็นอาจารย์โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหนังสือแจ้งสถานทูตและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขอเรียนว่า บุคคลที่มีอาการป่วยทางจิตเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับโอกาส กำลังใจ และการสนับสนุนจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการรับฟังความคิดเห็นและความรู้สึกของผู้ป่วยด้วยความเข้าใจและเห็นใจ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งด้านร่างกาย สังคม จิตใจ และอาชีพ เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูแลตนเอง และดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป
หากพบเห็นคนใกล้ตัวเรามีลักษณะอาการซึมเศร้า เก็บตัว จากที่เคยเรียบร้อยก็กลายเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรงจนน่ากลัว ไม่ชอบอาบน้ำ สะสมขยะ พูดจาหรือหัวเราะอยู่คนเดียว ควรรีบพาไปพบจิตแพทย์ หรือแจ้งไปยังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) สายด่วน 1669 เพื่อทำการรักษาบำบัดต่อไป
ภาพจาก ข่าวสด
