นักลงทุนแห่จองไอพีโอ ETC ล้นทะลัก มั่นใจหุ้นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมตัวแรกของไทย พร้อมเทรด 18 ส.ค.นี้

นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ทั้งผู้ถือหุ้นของ BWG ที่ได้สิทธิจองซื้อ นักลงทุนที่ให้ความสนใจใน ETC และได้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวนทั้งหมด 600 ล้านหุ้น และหุ้น Greenshoe อีก 60 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท ทำให้บริษัทฯสามารถระดมทุนได้ 1,560,000,000 บาท เพื่อใช้ในการขยายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่างๆ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและ ชำระคืนเงินกู้ โดยบริษัทฯมั่นใจว่า บริษัทฯ จะรักษาการเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ย 3 ปีท่ผ่านมา มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 40%

“ปีนี้ ETC จะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าขยะครบทั้ง 3 แห่ง ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.50 เมกะวัตต์เป็นปีแรก คาดว่าจะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยยะ จากปีที่แล้วซึ่งรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพียง 1 แห่งที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าใหม่ทั้ง 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าขยะ RH และโรงไฟฟ้าขยะ AVA มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง 6.83 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่สูงสุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น และทำให้บริษัทฯมีอัตรากำไรต่อเมกะวัตต์ค่อนข้างสูง สำหรับแผนการขยายกิจการในอนาคตบริษัทฯได้ศึกษาและวางแผนจะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่างๆของภาครัฐ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 44 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะเปิดประมูลปลายปีนี้” นายเอกรินทร์กล่าว

นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ผู้จัดการการการจัดจำหน่ายโดยไม่รับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของ ETC กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเปิดจองหุ้นไอพีโอ ETC มีกระแสความสนใจอย่างสูงจากทั้งนักนักลงทุนทุกๆกลุ่ม และ เมื่อเปิดจองในวันที่ 5-11 สิงหาคมที่ผ่านมา หุ้นไอพีโอของ ETC จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการจองซื้อของนักลงทุน ซึ่งนักลงทุนทั่วไปจะสามารถซื้อหุ้น ETC ในตลาดหลักทรัพย์ mai ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันเข้าซื้อขายวันแรก

นายชัยพัชร์ กล่าวว่า เชื่อว่าสาเหตุที่หุ้น ETC ได้รับความสนใจอย่างสูงเนื่องจาก ETC มีจุดแข็งอย่างมากด้านเชื้อเพลิงขยะจากบริษัทฯแม่คือ กลุ่มเบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) เป็นผู้ประกอบการด้านกำจัดขยะอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ อีกทั้ง ETC มีประสบการณ์การดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะที่ดี มีคณะผู้บริหารและทีมงานวิศวกรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ อีกทั้งยังมีบริษัทย่อยเป็น บริษัทรับเหมาที่เชี่ยวชาญการสร้างโรงไฟฟ้าขยะแบบครบวงจร รวมถึงบริหารและดูแล ซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า (O&M) ให้มีประสิทธิภาพสูง จึงเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าขยะสะอาดแบบครบวงจรตัวแรกของตลาดหุ้นไทยที่มีอนาคตไกล มีผลประกอบการที่ดี มีอัตรากำไรสูง และมีแนวโน้มการเติบโตสูงจากการเตรียมเปิดประมูลโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงกว่า 444 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะได้รับความสนใจหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างมาก

Advertisement

สำหรับบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) เป็น ผู้นำด้านโรงฟ้าขยะแบบครบ คือ มีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม 3 แห่งคือ ที่จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และพิจิตร รวมกำลังการผลิต 20.4 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.5 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี โดย ETC เป็น บริษัทในกลุ่มเบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีโรงงานผลิตขยะอัดแท่ง (RDF) ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 500,000 ตันต่อปี ทำให้ ETC มีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง รวมถึงข้อได้เปรียบด้านคุณภาพ และต้นทุนเชื้อเพลิง

ETC มีทุนจดทะเบียน 1,120 ล้านบาท และมีจำนวนหุ้นทั้งหมด 2,240 ล้านหุ้น ด้วยมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 – 2562 มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 184.10 ล้านบาท 325.24 ล้านบาท และ 362.39 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 3.14 ล้านบาท ในปี 2560 และมีกำไรสุทธิจำนวน 65.35 ล้านบาท และ 56.80 ล้านบาท ในปี 2561 – 2562 ตามลำดับ โดยผลประกอบการเติบโตขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ค่าไฟฟ้าเต็มปีจากโรงไฟฟ้า ETC ในปี 2561 และ 2562 ขณะที่ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 134.90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.18 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสูง 18% นอกจากนี้ ETC คาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าขยะ RH และ AVA เต็มระยะเวลาที่เหลือของปี ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งดังกล่าวมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง6.83บาทต่อหน่วยซึ่งเป็นอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่สูงสุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น เนื่องจากภาครัฐส่งเสริมการใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงเพื่อลดปัญหาด้านปริมาณขยะของประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image