ไล่เช็กไทม์ไลน์ หนุ่มมาเลย์ติดโควิดจากไทย พักคอนโดฯ ย่านลาดพร้าว-กทม.เร่งค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด แฟนสาวเดินทางกลับ ตจว. กต.แจงทูตมะกัน 163 คนเข้าไทยปลาย ส.ค.นี้ มวยอ้อมน้อยการ์ดตก กกท.ขู่ใช้ยาแรง
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจากการแพร่ระบาดรอบ 2 ในหลายประเทศ ส่วนในประเทศไทยนั้นแม้จะไร้ผู้ติดเชื้อในประเทศกว่า 100 วันแล้ว แต่ล่าสุด มีกรณีกระทรวงสาธารณสุข ประเทศมาเลเซีย รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศมาเลเซีย มี 1 ราย เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไทย โดยนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ว่ายังไม่ได้รับรายงานข้อมูลของผู้ป่วยรายดังกล่าว แต่จะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก จะพบผู้ป่วยในลักษณะเดียวกันนี้อยู่เรื่อยๆ
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีควบคุมโรค กล่าวถึงชายมาเลเซียขณะอยู่ในประเทศไทยได้เข้าพักที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ว่าหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคและสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงพื้นที่เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว หากมีผลความคืบหน้าอย่างไรจะมีการรายงานให้ประชาชนรับทราบทันที ขณะนี้ยังไม่มีข้อยืนยันว่าชายมาเลเซียติดเชื้อจากที่ใด เนื่องจากเดินทางไปมาเลเซียแล้วเข้าสถานกักกันโรคนานแล้ว และยังไม่ทราบประวัติการเดินทางที่ชัดเจน จึงยังไม่มีข้อสรุป
เผยคอนโดย่านลาดพร้าว
นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบพิกัดที่ชายชาวมาเลเซียเคยพักอาศัยอยู่แล้ว เป็นย่านลาดพร้าว พื้นที่เขตวังทองหลาง แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นคอนโดแห่งใด เบื้องต้นทราบว่าชายรายดังกล่าวพักอยู่ในคอนโดคนเดียวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ส่วนแฟนเดินทางกลับไปต่างจังหวัด “ต่อมา เดือนสิงหาคมชายดังกล่าวเดินทางกลับมาเลเซีย ดังนั้น จากนี้เจ้าหน้าที่ทั้งของ กทม.และจาก สธ.จะต้องทวนสอบทั้งในส่วนของชายชาวมาเลเซีย และของแฟนสาวที่เดินทางกลับไปต่างจังหวัดด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าแฟนเดินทางไปยังจังหวัดใด อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลอย่างเต็มที่ และหากทราบข้อมูลจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง” นพ.ชวินทร์กล่าว
แจง163ทูตมะกันเข้าไทย
นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมครอบครัว จะเดินทางเข้าประเทศไทย โดยเที่ยวบินพิเศษที่จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ โดยทุกคนจะต้องผ่านมาตรการคัดกรอง ควบคุม และกักกันโรคที่เข้มงวดตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขของไทย และเข้าพักในสถานที่กักกันโรคแบบ Alternative State Quarantine (ASQ) เป็นระยะเวลา 14 วัน ทั้งนี้ การเดินทางเข้ามาประเทศไทยดังกล่าวเป็นการโยกย้ายตามปกติสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ประจำการในประเทศไทย
นายเชิดเกียรติกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่า ทางการสหรัฐจะจัดเที่ยวบินนำเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมครอบครัว เดินทางถึงกรุงเทพฯในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ เที่ยวบินดังกล่าวจะมีนักการทูตและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ พร้อมครอบครัว ซึ่งบางส่วนประจำการที่ไทยอยู่แล้ว และบางส่วนเข้ามาประจำการครั้งแรก ในชั้นนี้ได้รับแจ้งว่ามีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 163 คน โดยไม่มีผู้โดยสารกลุ่มอื่นมาปะปนด้วย ผู้โดยสารทุกคนจะต้องผ่านมาตรการคัดกรอง ควบคุม และกักกันโรคที่เข้มงวดตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขของไทย โดยผู้โดยสารทั้งหมดจะต้องได้รับ Certificate of Entry ซึ่งออกโดยกระทรวงการต่างประเทศไทย มีใบรับรองแพทย์ fit-to-fly และก่อนเดินทางจะต้องได้รับการตรวจว่าปลอดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยผู้โดยสารจากเครื่องบินลำดังกล่าวทั้งหมดจะเข้ารับการกักตัวใน ASQ เป็นเวลา 14 วัน
กต.ย้ำโยกย้ายตามปกติ
“การเดินทางเข้าไทยเป็นกลุ่มดังกล่าวนั้นเป็นการโยกย้ายตามปกติของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นสำนักงานขนาดใหญ่ ที่นอกจากดูแลความสัมพันธ์ทวิภาคีกับไทยแล้วยังครอบคลุมงานระดับภูมิภาค โดยทุกปีจะมีการโยกย้ายสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประมาณหลายร้อยคน โดยก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐทยอยเดินทางเข้ามา โดยเที่ยวบินอพยพตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 แต่ในห้วงเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นมา กพท.ออกประกาศจำกัดการอนุญาตให้อากาศยานเฉพาะบางประเภททําการบินเข้าออกประเทศไทย ฝ่ายสหรัฐจึงได้ชะลอการเดินทาง” นายเชิดเกียรติกล่าว
มวยอ้อมน้อยการ์ดตกขู่ใช้ยาแรง
หลังจาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า พบรายงานกรณีเวทีมวยสยามอ้อมน้อยการ์ดตก ไม่ได้จัดให้มีมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยแฟนมวยที่เข้าชมในสนามไม่เว้นระยะห่างทางสังคม หลังจาก ศบค.ปลดล็อกให้การแข่งขันกีฬาสามารถอนุญาตให้ผู้ชมเข้าชม และเชียร์กีฬาได้ในสนามตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้หารือผู้ว่าการ กกท. และนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กกท.ไปแล้ว ว่าจากภาพที่ออกมาได้ทำหนังสือตักเตือนไปที่เจ้าของสนามมวยทันที หากยังปฏิบัติเช่นนี้เป็นครั้งที่สองจะห้ามการแข่งขันแบบมีผู้ชม เพราะมีคู่มือกำหนดไว้ให้ปฏิบัติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผู้จัดต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยผู้ว่าการ กทท.ได้ออกหนังสือเตือนไปยังทุกสนามมวย และทุกสมาคมกีฬาที่มีการจัดแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม กล่าวว่า เมื่อพบผู้กระทำความผิด กกท.ในฐานะนายทะเบียนที่ควบคุมดูแลก็จำเป็นต้องเข้ามาควบคุม และเมื่อพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำจะมีบทลงโทษ ซึ่งจะเริ่มจากเบา คือการตักเตือน ไปหาหนัก ซึ่งมีผลทางกฎหมาย และอาจหนักไปถึงการเพิกถอนใบอนุญาตจัดการแข่งขันเวทีมวยนั้นๆ และถอนใบอนุญาตค่ายมวยนั้นๆ ด้วย” ผอ.ทนุเกียรติกล่าวปิดท้าย
