‘แม่ทองสุก’ ยันไม่มีการโกงเงินค้ำประกันซื้อขายทองคำออนไลน์

ภาพประกอบ

‘แม่ทองสุก’ ยันไม่มีการโกงเงินค้ำประกันซื้อขายทองคำออนไลน์

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า กรณีที่มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามว่า ถูกหลอกให้ลงทุนในการซื้อขาย (เทรด) ทองคำ เนื่องจากเมื่อราคาทองปรับขึ้นแล้ว ไม่สามารถซื้อขายได้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทนั้น เบื้องต้นรายละเอียดของกรณีนี้คือ เป็นการซื้อขายทองคำออนไลน์ โดยมีระบบที่ลูกค้าสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการวางเงินในบัญชีกับทางร้านเริ่มตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นคือ นักลงทุนมีการขายทองคำกับบริษัทฯ และทำสัญญาการขายทองคำตั้งแต่ราคา 21,000 บาทต่อบาททองคำ จนถึงราคา 24,000 บาทต่อบาททองคำ

ซึ่งโดยปกติแล้ว การขายทองคำจะต้องส่งมอบภายใน 5 วัน แต่ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้ส่งมอบทองคำภายในเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งการซื้อขายทองคำจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้เมื่อนักลงทุนไม่ได้ส่งมอบทองคำตามสัญญา แล้วทองคำปรับราคาขึ้นไปต่อเนื่อง แต่นักลงทุนตั้งราคาการขายไว้ในระดับที่ต่ำกว่าปัจจุบัน ก็ทำให้เกิดการขาดทุนขึ้น จนถึงจุดที่เงินค้ำประกันใกล้เหลือศูนย์ บริษัทฯจึงจำเป็นที่จะต้องหยุดความเสี่ยงด้วยการปิดสัญญา ซึ่งก็เป็นการยืดเงินมัดจำและหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันไว้

โดยที่ลูกค้าซึ่งเป็นนักลงทุน หากจะทำการซื้อขายทองคำ จะต้องทำความเข้าใจ และบันทึกชื่อ เพื่อยืนยันถึงความเข้าใจในข้อปฏิบัติทั้งหมด ซึ่งการลงทุนของลูกค้า บริษัทฯ ไม่สามานถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เป็นการตัดสินใจของลูกค้าเพียงคนเดียว เพราะการซื้อขายทำผ่านช่องทางออนไลน์ และต้องใส่รหัสผ่าน เพื่อยืนยันตัวตนด้วย

“เมื่อลูกค้าตกลงซื้อขายทองกับทางร้านแล้ว ต้องนำทองมาให้ร้านภายใน 5 วัน จากนั้นร้านจะจ่ายเงินคืนแก่ลูกค้าตามราคาที่ตกลงขายเอาไว้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวตกลงขายทองที่ราคาตั้งแต่ 21,000-24,000 บาท แต่ลูกค้าไม่นำทองคำมามอบให้แก่ร้าน และค้างส่งมอบเกินกว่า 30 วัน บางรายกินเวลานานกว่า 90 วันจนถึง 1 ปี เมื่อราคาทองปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางร้านจึงต้องหักเงินมัดจำในบัญชีของลูกค้าเอาไว้ก่อน ตามส่วนต่างของราคาขายทองที่ลูกค้าตกลงเอาไว้ เทียบกับราคาทองในปัจจุบัน เมื่อเงินมัดจำที่วางเอาไว้ต่ำถึง 1% ของส่วนต่างราคาทองที่ลูกค้าขายกับราคาทองปัจจุบัน

Advertisement

บริษัทฯจะมีระบบป้องกันความเสี่ยง ไม่อนุญาตให้ลูกค้าขายทองเพิ่ม เพราะมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูง แต่ลูกค้ายังสามารถซื้อเพิ่มได้ ซึ่งลูกค้าต้องเติมเงินมัดจำเข้าสู่บัญชีเพื่อคงสถานะการขายเอาไว้ หากลูกค้าไม่สามารถเติมเงินค้ำประกันได้ บริษัทจะต้องปิดสถานะการขาย ซึ่งหากลูกค้ามีผลขาดทุน บริษัทจะนำเงินค้ำประกันมาชำระผลขาดทุนดังกล่าว โดยกระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้” นายแพทย์กฤชรัตน์ กล่าว

นายแพทย์กฤชรัตน์ กล่าวว่า ทองคำในช่วงที่ผ่านมา ราคาขึ้นมาตลอด ซึ่งหากลูกค้ามีเงินมัดจำอยู่ และไม่ได้เข้าขีดอันตรายที่เงินจะหมด ลูกค้าสามารถเคาะการซื้อและขายได้ตามปกติ แต่หากลูกค้ามีความเสี่ยงที่เงินจะหมด บริษัทฯ จะเป็นที่จะต้องหยุดการซื้อขายของลูกค้า เพื่อลดความเสี่ยงของลูกค้า ไม่ให้เกิดความเสียหายจนติดลบขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามสัญญาของบริษัทฯ ที่เชื่อว่าลูกค้าจะต้องรู้ เพราะก็ทำการซื้อขายกับบริษัทฯ มามากกว่า 1 ปีแล้ว

โดยก่อนที่จะมีการตัดยอดเงินค้ำประกัน มีการแจ้งเตือนนักลงทุนล่วงหน้าแต่ละรายไม่น้อยกว่า 3-10 ครั้งขึ้นไป และมีหลักฐานที่เก็บไว้อย่างละเอียด ทั้งการแจ้งผ่านโทรศัพท์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด โดยลูกค้าหลายรายก็เข้าใจดี และเติมเงินค้ำประกันเข้ามา จนกระทั่งไม่ไหวก็หยุดการเติม และพอราคาทองคำปรับขึ้นเรื่อยๆ เงินค้ำประกันก็ถูกหักจนหมดลงเรื่อยๆ เพราะการเติมเงินค้ำประกันไม่ได้หมายความว่า บริษัทฯ จะไม่สามารถหยุดการบังคับขายได้ เพราะหากนักลงทุนยังไม่ปิดสถานะขายทอง และทองคำปรับขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนก็จะขาดทุนต่อเนื่อง แต่หากนักลงทุนเปิดสถานะขายแล้วและมีการส่งมอบ ก็จะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น และเงินค้ำประกันก็ยังอยู่ ไม่ได้ถูกหักเพื่อชดเชยส่วนใด

Advertisement

นายแพทย์กฤชรัตน์ กล่าวว่า ก่อนที่จะนักลงทุนจะเข้ามาเป็นลูกค้า และทำการซื้อขายกับบริษัทฯ ได้มีการจัดทำแบบทดสอบ เพื่อประเมินความเข้าใจของลูกค้าทุกราย โดยไม่อนุญาตให้ทำการซื้อขายก่อนทำการประเมินตนเอง ซึ่งได้ให้ลูกค้าทุกรายทำการทดสอบ เพื่อประเมินความเข้าใจถึงคงามเสี่ยงในการลงทุน ว่ามีทั้งกำไรและขาดทุน และหากลูกค้าตอบแบบทดสอบแล้วยังไม่มีความเข้าใจ บริษัทฯ จะยังไม่ให้ลงทุน ซึ่งลูกค้ากลุ่มดังกล่าวที่ทำการร้องเรียน ยืนยันว่าไม่ใช่ลูกค้าใหม่ หลายรายมีการซื้อขายกับบริษัทฯ มานาน และเคยเล่นแล้วมีกำไรด้วยซ้ำ แต่ต้องยอมรับว่าถึงจุดหนึ่งที่ราคาทองคำโดดขึ้น

นักลงทุนอาจตั้งขายไว้ที่ 24,000 บาทต่อบาททองคำ แต่ไม่ส่งมอบ เพราะอาจคิดว่าเดี๋ยวราคาจะย่อตัวลงมาเหมือนในอดีต แต่ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับขึ้นอย่างเดียว ทำให้ต้องถูกหักเงินมัดจำจนหมดไปเรื่อยๆ โดยประเมินเบื้องต้นมีนักลงทุนขาดทุนตั้งแต่ 3,000-6,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่บริษัทฯ จะกินเงินมัดจำแล้วหายไปหมด เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ทำไปตามขั้นตอนที่มีในสัญญาชัดเจน โดยบริษัทฯ พยายามอย่างยิ่งแล้วที่จะยืดเวลาให้

แต่เมื่อถึงจุดที่ไม่ไหวแล้ว ก็ต้องทำตามกระบวนการที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าระบบของบริษัทฯ ไม่มีการขัดข้องและถือเป็นระบบที่มีมาตรฐานดีที่สุดในการซื้อขายทองคำออนไลน์ เพราะมีลูกค้ากว่า 1,000 ราย ซึ่งหากมีการขัดข้องแค่เล็กน้อย ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นหลายล้านบาท ทำให้ระบบไม่มีทางขัดข้องอย่างที่ถูกกล่าวหาแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image