เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มมาเลเซียติดโควิดหลังกลับไทย มาเที่ยวเชียงใหม่

เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มมาเลเซียติดโควิดหลังกลับไทย มาเที่ยวเชียงใหม่ 

จากกรณีที่มีรายงานข่าวจากกรมควบคุมโรค ว่า พบชาวมาเลเซียติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หลังเดินทางกลับจากไทย โดยทางกรมควบคุมโรคได้ประสานไปยังจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR national focal point) ของประเทศมาเลเซีย เพื่อขอทราบข้อมูลสำหรับสอบสวนโรค และตรวจสอบรายละเอียด มีรายงานเบื้องต้น คือ ผู้ติดเชื้อ 1 ราย เป็นชาย ชาวมาเลเซีย อายุ 46 ปี

มีประวัติพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยช่วงต้นเดือน มี.ค. ถึง 5 ส.ค. 2563 พักอาศัยอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร หลังจากเดินทางกลับไปประเทศมาเลเซีย ได้เข้าพักในสถานที่กักกัน ไม่มีอาการผิดปกติ ได้ตรวจหาเชื้อครั้งแรกในวันที่ 5 ส.ค. 2563 ไม่พบเชื้อ และได้ตรวจครั้งที่สองในวันที่ 15 ส.ค. 2563 พบเชื้อก่อโรค COVID-19 ทางทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร พบว่า มีผู้สัมผัส 1 ราย เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

ทางทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ติดตามตัวผู้สัมผัสดังกล่าว

Advertisement

-ผู้สัมผัสรายนี้ เป็นหญิง อายุ 36 ปี พักอาศัยอยู่ที่ร้านขายเสื้อผ้าของตนเอง ให้ประวัติว่าเป็นเพื่อนกับชายชาวมาเลเซีย โดยได้พบกันครั้งล่าสุดในวันที่ 5 ส.ค. 2563 ที่คอนโดที่ผู้ติดเชื้อเช่าไว้ที่กรุงเทพ ก่อนที่จะเดินทางกลับมาเลเซีย

-ผู้สัมผัสรายนี้เดินทางออกจากภูมิลำเนาวันที่ 16 ส.ค. 2563 มาพักที่คอนโดดังกล่าวที่กรุงเทพมหานคร 1 คืน เพียงคนเดียว ก่อนจะเดินทางไปสนามบินในช่วงเช้าของวันที่ 17 ส.ค. 2563 พร้อมกันเพื่อนอีก 2คน จากนั้นมีเพื่อนอีก 3 คน ไปเจอกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางมาเที่ยว จ.เชียงใหม่ รวมทั้งสิ้น 6 คน

-เมื่อมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ มีเพื่อน 1 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.เชียงใหม่ ได้เช่ารถตู้มารับ และเดินทางไปพักที่ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม ผู้สัมผัสรายนี้ทราบข้อมูลเบื้องต้นจากผู้ติดเชื้อแล้ว จึงได้มีการแยกพักคนละฝั่งกันเพื่อนคนอื่น และสวมหน้ากากตลอดเวลา

Advertisement

-ผู้สัมผัสคนดังกล่าว ไม่มีอาการป่วย และได้เก็บตัวอย่างจากทางเดินหายใจ เพื่อตรวจหาเชื้อก่อโรค COVID-19 ในวันที่ 18 ส.ค. 2563 ซึ่งผลตรวจไม่พบเชื้อ ขณะนี้ผู้สัมผัสรายนี้ อยู่ในการดูแลของ โรงพยาบาลนครพิงค์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image