ศบค. อนุมัติ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 5 เผย ปชช. ยังใช้ชีวิตได้ปกติ

ศบค. อนุมัติ  ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ครั้งที่ 5 เผย ปชช. ยังใช้ชีวิตได้ปกติ

เมื่อวันที่  21 สิงหาคม ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุมวันนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ว่า ภายนอกประเทศยังพบการติดเชื้อที่สูง และภายในประเทศไทยก็มีมาตรการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมที่มากขึ้น ที่เกือบเป็นปกติ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เช่น การเปิดโรงเรียน การขันแข่งกีฬาแบบมีผู้เข้าชม การให้ขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำ มีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มความจุมาตรฐาน รวมถึงการเปิดสถานบันเทิง ซึ่งเป็นความเสี่ยง พร้อมทั้งมีการเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ มีการเข้ากักตัวในสถานกักกันโรค(Quarantine) โดยกฎหมายที่กำลังพัฒนายังไม่สามารถใช้ควบคุมได้ทั้งหมด เช่น การทำระบบติดตามตัว ซึ่งกฎหมายต่างๆ นั้นยังไม่เพียงพอ

“จึงจำเป็น เห็นควรเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร(คราวที่ 5) ต่อไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2563” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นำไปสู่การพิจารณาการผ่อนคลายบังคับใช้กฎหมายหลังการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยได้นำเสนอเข้าคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจ ใน 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 การเปิดโรงเรียนแบบ on site ทุกแห่ง สามารถเปิดเรียนได้ทั้งหมด โดยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด เพื่อให้ทำการเปิดเรียนได้ตามปกติ เรื่องที่ 2 การอนุญาตให้แข่งขันกีฬาที่มีผู้เข้าชมได้ แต่จะต้องมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าขม เพื่อลดความแออัด และ เรื่องที่ 3 ให้ขนส่งสาธารณะทั้งทางน้ำและทางบก มีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามจำนวนความจุมาตรฐาน โดยทั้งหมดนี้คณะกรรมการเฉพาะกิจได้เสนอ และได้มีการทดลองปฏิบัติมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ดังนั้นที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้จึงมีการอนุมัติข้อเสนอทั้งหมดแล้ว

Advertisement

เมื่อถามถึงเหตุผลในการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป และเป็นความเห็นร่วมกันระหว่างฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ก่อนจะเป็นมติ มีการประชุมกันหลายครั้ง โดยมี ศบค.ชุดเล็ก ทำงานร่วมกันในทุกกระทรวง และมีความเห็นให้ขยายการประกาศใช้ต่อไปอีก 1 เดือน โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากชุดพฤติกรรมของคน ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ ดังนั้น คนที่สามารถควบคุมได้คือคนภายในประเทศ และจะต้องพยายามควบคุมคนต่างด้าวที่จะเข้ามาในประเทศ รวมไปถึงการเดินทางทั้งทางบก อากาศ และทางน้ำ

“ในเรื่องของการมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ทำให้ชีวิตประจำวันของประชาชนเปลี่ยนไปแต่อย่างใด ทุกท่านคงได้พิสูจน์จากภาพที่เราทำงานกันตรงนี้ การที่เราใช้ชีวิตประจำยังคงเดิม ไม่มีเคอร์ฟิว ไม่มีสิ่งใดทั้งสิ้น กิจการเปิดดำเนินได้ปกติแต่ต้องทำตามชีวิตวิถีใหม่” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image