หลังคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ฯ โหวตอนุมัติโครงการจัดหาเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท จับตาชงเข้ากมธ.งบชุดใหญ่ 26 ส.ค.นี้ เสนอเปิดหน้าลงมติว่าใครเห็นเรือดำน้ำสำคัญกว่าปัญหาปากท้องประชาชน หวั่นลามปลุกม็อบต้านรัฐบาลทะลัก
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กล่าวว่า ทาง อนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ โดยนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ จะเข้ารายงานการพิจารณางบจัดซื้อเรือดำน้ำ จากประเทศจีน ของกองทัพเรือ จำนวน 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ต่อ กมธ.งบชุดใหญ่ ให้พิจารณาในวันที่ 26 ส.ค. เวลา 13.00 โดยตนในฐานะที่เป็นโฆษก กมธ.งบชุดใหญ่ จะขอให้ กมธ.ฯ พิจารณาทบทวนมติ
” ความจริงแล้ว ประธานอนุกมธ. ต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช่มติช่วยฝั่งรัฐบาล ทราบว่ามีคนในรัฐบาลระดับนายพล เป็นบิ๊ก “ป.” โทรศัพท์มาสั่งการ ” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า จะเสนอให้กมธ.ชุดใหญ่ทบทวนมติของอนุกมธ.ฯ ถ้ากมธ.ชุดใหญ่เห็นชอบตามมติของอนุกมธ.ฯ ก็จะขอให้ที่ประชุมกมธ.ชุดใหญ่ ลงมติแบบเปิดเผย จะได้เห็นว่า ส.ส.ที่อยู่ในกมธ.คนไหน เห็นว่าเรือดำน้ำสำคัญกว่าปัญหาปากท้องของประชาชน
” ถ้าไม่ซื้อเรือก็ไม่มีใครตายสักคน แต่ตอนนี้ประชาชนกำลังฆ่าตัวตายเยอะเพราะปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง ถ้ารัฐบาลยังเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำ ผมจะได้เชิญชวนประชาชนออกไปเดินขบวนไล่รัฐบาล ”
แม้เหตุผลของนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ฯ บอกว่า รักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน และการมีไว้ซึ่งเรือดำน้ำก็เพื่อให้ ประเทศอื่นเกรงใจ
หรือเหตุผลของ “แม่เลี้ยงติ๊ก” นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ครุภัณฑ์ ฯ บอกว่า ทำด้วยความรอบคอบ เห็นใจประเทศชาติที่อยู่ในภาวะยากลำบาก แต่เพราะเหตุผลความจำเป็นของกองทัพเรือและรัฐบาล