เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ร.อ.กิตติเดช กันคล้อย ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ม.2 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าลาดตระเวนและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของชาวต่างด้าวตามแนวชายแดน ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากพบว่ามีชาวต่างด้าวในประเทศเพื่อนบ้านพยามยามลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยใช้ช่องทางตามธรรมชาติในการลักลอบเดินทางเข้ามา
พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 สั่งการให้ ร.อ.กิตติเดช กันคล้อย ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ม.2 จัดกำลังพลลาดตระเวนตามท่าข้ามในพื้นที่รับผิดชอบถึงบริเวณท่าข้ามผักกาด บ.ป่าซางงาม หมู่ 6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 4 คน เดินมาจากทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจึงได้แสดงตัวและเรียกให้หยุด โดยทราบชื่อบุคคลทั้ง 4 คือ 1.นางแสงคำ โซ อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา 2. นางสาวดาววรรณ อายุ 18 ปี สัญชาติเมียนมา 3. ด.ช.สุข (ไม่ทราบอายุ) สัญชาติเมียนมา 4. ด.ญ.แสงคำ (ไม่ทราบอายุ) สัญชาติเมียนมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
ทั้ง 4 คน ให้การว่าได้เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อจะเดินทางเข้ามาเรียนหนังสือและมาหาญาติที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากนั้นได้นำตัวทั้งหมด ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไว้รัส โควิด-19 ในประเทศเมียนมา พบว่าทางกระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมารายงานว่า เมียนมาพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 จำนวน 10 ราย โดยผู้ป่วย 9 รายอยู่ในกลุ่มที่ถูกกักตัวในเมืองซิตตะเวของรัฐยะไข่ ส่วนอีก 1 รายมาจากเมืองมรักอู โดยยอดผู้ป่วยในเมียนมาปัจจุบันอยู่ที่ 409 ราย หลังจากไม่พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเมียนมามีคำสั่งห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานในเขตเมืองชิตตะเว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และเมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 สิงหาคม รัฐบาลมีคำสั่งให้สั่งปิดสถานบันเทิงในเมืองท่าขี้เหล็กเป็นเวลา 15 วัน เนื่องจากบางเมืองมีการติดเชื้อโควิด-19 และเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อ โดยสถานบันเทิงบางแห่งได้มีการไลน์แจ้งพนักงานและกลุ่มลูกค้าถึงสาเหตุการปิด ส่วนจะเปิดให้บริการวันไหนจะแจ้งให้ลูกค้าทราบอีกครั้ง ซึ่งทางเมียนมาตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 ครั้งแรกในประเทศเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่่ผ่านมา มีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมแล้ว 6 ราย ด้านนาย Myint Htwe รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฯ ขอให้ประชาชนมีการป้องกันอย่างต่อเนื่องในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 และเตรียมพร้อมรับมือในการระบาดระลอก 2
