เต็ดตร้า แพ้ค เปิด 7 เทรนด์ อุตสาหกรรมด้านอาหารควรรู้

นายสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัทเต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) กล่าวว่า เต็ดตรา แพ้ค ได้เปิดเผยรายงาน “Trendipedia” (เทรนด์ดิพิเดีย) ประจำปี 2563 ซึ่งทำการศึกษาเทรนด์ผู้บริโภคประจำปี 2563 ด้านอาหาร ชี้ให้เห็นว่าการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา ขณะที่ต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพและยังคงต้องการความสะดวกสบายด้วยเช่นกัน

เมื่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหล่าผู้ผลิตอาหารจำเป็นต้องตระหนักถึงเทรนด์ต่างๆและสถิติล่าสุดของตลาดเพื่อพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ทั้งนี้โควิด-19 ได้สร้างความตื่นตระหนกทั้งในบริบททางกายภาพและทางสังคมซึ่งส่งผลต่อความกังวลและพฤติกรรมของผู้บริโภค แต่ถึงแม้ว่าจะมีวิกฤตเช่นนี้เกิดขึ้นต่อระบบนิเวศธุรกิจเทรนด์หลัก และปัจจัยในระดับมหภาคยังคงมีความสำคัญอยู่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เกิดขึ้น

“เทรนดิพิเดีย” ได้ระบุเทรนด์สำคัญในปี 2020 ไว้ 7 ประการดังนี้ “การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ” “ความสะดวกในรูปแบบใหม่” “ต้นกำเนิดและแหล่งที่มา” “การเชื่อมสัมพันธ์” “ความดื่มด่ำที่ตั้งใจ” “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ”ประสบการณ์เต็มรูปแบบ”

Advertisement

“การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ” (Responsible consumption) ซึ่งเกี่ยวข้องทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แต่เดิมผู้บริโภคมองทั้งสองเรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกัน แต่ปัจจุบันจะมองเป็นองค์รวมเดียวกันและเข้าใจกถึงความเชื่อมโยงของทั้งสองเทรนด์ ทำให้เกิดทัศนคติใหม่ที่ว่า “สิ่งใดที่ดีสำาหรับโลกใบนี้ ย่อมดีสำาหรับฉันด้วย” ซึ่งได้สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ผลิตอาหาร โดยผลิตภัณฑ์ต้องมีรูปลักษณ์และให้ความรู้สึกที่สะอาดปลอดภัย

“ความสะดวกในรูปแบบใหม่”(Convenience reborn) ซึ่งเน้นถึงการพัฒนาที่รวดเร็วของระบบร้านค้าออนไลน์และบริการส่งถึงบ้านแบบเดลิเวอรี่ เริ่มมีควาสำคัญมากขึ้น อย่างผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยพิจารณาถึงทางเลือกเหล่านี้มาก่อน อาทิ ผู้สูงอายุ ได้เริ่มทดลองใช้งานเป็นครั้งแรกและต้องอาจต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้ต่อไป ผลิตภัณฑ์อาหารต้องสามารถหาซื้อ ระบุชนิดและทำความเข้าใจได้ง่าย

“ต้นกำเนิดและแหล่งที่มา” (Heritage and provenance) เพราะอาหารรถือเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมของมนุษย์ ปัจจุบันกระแสโลกภิวัฒน์กำลังก่อให้เกิดแรงกระตุ้นอันทรงพลังในการออกสำรวจวัฒนธรรมและต้นกำเนิดในแหล่งต่างๆ เป็นต้น

“รายงานผลการศึกษาของเราเน้นย้ำถึงแนวคิดที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง นั่นคือเทรนด์หนึ่งสามารถเอื้อประโยชน์ต่อเทรนด์อื่น ๆ ได้ และเทรนด์ทั้งหมดนี้อาจเป็นการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์หรือความเป็นจริงที่เป็นสากลของคนเรานั่นเอง ซึ่งรายงานผลการศึกษาเทรนด์ผู้บริโภคครั้งใหม่ในฉบับเต็มนี้ จะนำเสนอให้แก่ลูกค้าของเต็ดตรา แพ้ค ในรูปแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ เพื่อให้ผู้สนใจสามารถศึกษาเนื้อหาได้” นายสุภนัฐกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image