“อนุทิน” แถลงข่าวงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 17 หนุนคนไทย ซื้อของไทย ใช้ของไทย เริ่มช้อปวันที่ 2-6 ก.ย.
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ” ครั้งที่ 17 ประจำปี 2563 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน ที่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค ฮออล์ 10-12 เมืองทองธานี โดยเป็นการจัดงานรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) มีการคัดกรองอุณหภูมิร่างกายทุกคนภายในงาน โดยขณะเข้าร่วมงานจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันโรคตลอดเวลา
นายอนุทิน กล่าวว่า ปัจจุบันนวดไทย ได้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก(UNESCO)เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ในปีนี้มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติจัดขึ้นอีกครั้ง เป็นการพัฒนาความรู้ด้านสมุนไพรของคนไทย และยังเป็นศูนย์รวมด้านวิชาการของการแพทย์ทางเลือกและแผนไทย ที่มีองค์ความรู้ของผู้ที่ค้นคว้าวิจัย คิดค้นตัวยาต่างๆ ที่มาจากสมุนไพร นอกจากนี้ยังมีสินค้าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสมุนไพรไทยที่ถูกหลักตามวิชาการว่ามีประโยชน์
“ขอให้ความมั่นใจว่า เป็นนิทรรศการที่มีประโยชน์ และเพื่อให้คนไทยภาคภูมิใจ และสนับสนุน อุดหนุนสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย ซื้อโดยคนไทย ใช้ในเมืองไทย เกิดเป็นการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจพื้นฐาน ในสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้เราได้กลับมาดูของดีของไทย นำมาพัฒนาใช้ให้คนไทยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ต้นทุนเหล่านี้มาจากธรรมชาติ การรับประทานยา อาหารเสริมจากสมุนไพร อย่างน้อยก็ไม่ทำลายอวัยวะร่างกายไม่เหมือนกับยาเคมี” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า มั่นใจว่าคนไทยมีระบบการสาธารณสุขที่ดี มีพื้นฐานความรู้ด้านสุขอนามัยที่ดี การรับมือโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีดีขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากความร่วมมือของคนไทยทุกคน ในการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย
นพ.มรุต กล่าวว่า งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งนี้ 17 นอกจากนี้มีการประชุมวิชาการและมีไฮไลท์ต่างๆ ภายในงาน จุดประสงค์สำคัญของงานคือการแสดงทิศทางของการแพทย์แผนไทยในปีนี้ คือ นวดไทยและสมุนไพรกัญชา พร้อมทั้งภายในงานจะมีการแจกต้นสมุนไพรให้กับผู้เข้าร่วมงาน วันละ 300 ต้น กิจกรรมภายในงานแบ่งเป็น 4 โชน ได้แก่ 1.โซนวิชาการ ประชุมวิชาการด้านการแพทย์และการแพทย์ทางเลือกที่น่าสนใจ เช่น การนวดไทย กัญชาทางการแพทย์ ธุรกิจสมุนไพร ประกวดผลงานวิชาการ การอบรมตลาดความรู้ฟรี 18 หลักสูตร 2.โซนภูมิปัญญา เช่น นิทรรศการนวดไทย ลานวัฒนธรรมส่งเสริมและเชิดชูภูมิปัญญาการนวดไทย ภูมิทัศน์สวนสมุนไพรจำลอง และจัดแสดงเครื่องยาสมุนไพร 3.โซนบริการ บริการตรวจ ปรึกษาสุขภาพฟรี และ 4.โซนผลิตภัณฑ์ ชิม ช้อป ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรและอาหารสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐานกว่า 500 ร้าน พร้อมเปิดตัวการใช้แอพพลิเคชั่นนวดไทย (Big Data) และอยากเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงาน โดยต้องรักษามาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด
