นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจัดตั้งธุรกิจนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2563 มีจำนวน 247 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 444 ล้านบาท ลดลง 54.52 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปี2562 ที่มีการจัดตั้งธุรกิจ 543 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 975 ล้านบาท ส่วนการเลิกธุรกิจ มีจำนวน 112 ราย มีทุนจดทะเบียน 184 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.85 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการเลิกธุรกิจ 89 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 172 ล้านบาท
นางโสรดา กล่าวต่อว่า การเลิกกิจการของธุรกิจนำเที่ยวมาจากมาตรการของรัฐที่เข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19ทั้งมาตรการเว้นระยะห่าง การปิดการบิน เป็นต้น ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศไม่เดินทางท่องเที่ยว รวมทั้งการปิดประเทศไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวมีปัญหาจนทำให้ต้องเลิกกิจการ
” ช่วงครึ่งหลังปีนี้ สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศและต่างประเทศมีทิศทางดีขึ้นตามลำดับ ทำให้หน่วยงานภาครัฐได้เริ่มผ่อนคลายมาตรกรการเดินทาง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ 3 โครงการ คาดว่า จะส่งผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อผู้ประกอบการในภาคธุรกิจบริการและธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาทิ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจนำเที่ยว และธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น ” นางโสรดา กล่าว
นางโสรดา กล่าวต่อว่า เชื่อว่าจากมาตรการของภาครัฐและการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวของผู้ประกอบการ คาดว่าจะส่งผลทางจิตวิทยากระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายประเทศมากขึ้น การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีจะกระจายไปสู่การท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนมีแนวโน้มที่จะเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าเครื่องบิน และหลีกเลี่ยงการเดินทาง ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมหลักเพราะกลัวคนเยอะ ทำให้คาดว่าเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะกระจายไปยังผู้ประกอบขนาดเล็กและขนาดกลางมากขึ้น