จับกระเทียมเถื่อน 1พัน กก. ลักลอบนำเข้าจากเมียนมา คาดเตรียมส่งต่อให้นายทุนชาวไทย
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงพร้อมด้วยกำลังอาสารักษาดินแดน ที่ 6 อ.ขุนยวม พร้อมอาวุธครบมือ สนธิกำลังกับ กองร้อยทหารพรานที่ 3605 ฐานช่องทางห้วยต้นนุ่น เดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดที่มีการลอบขนกระเทียมจากประเทศเมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามากองไว้ในฝั่งไทย พื้นที่ใกล้กับช่องทางห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
ซึ่งได้รับรายงานจากนายอุดม หมั่นศึกษา ผู้ใหญ่บ้านห้วยต้นนุ่น หมู่ 4 ต.แม่เงา อ.ขุนยวมฯ พร้อมด้วยชรบ.เข้าไปตรวจสอบพบกระเทียมจำนวนประมาณ 1,000 กิโลกรัม ถูกลอบขนเข้ามาไว้ในเขตไทยใกล้เส้นแบ่งเขตชายแดนไทย – เมียนมา ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่ากระเทียมที่ได้มีการนำมาเก็บไว้ในฝั่งไทย ได้ถูกลอบขนลำเลียงกลับไปในเขตของประเทศเมียนมาแล้ว จึงรายงานเรื่องดังกล่าวให้กับนายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายอุดม เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองพร้อมด้วย ชรบ.อีก 3 คน รวมเป็น 4 คน ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งจากราษฎรในหมู่บ้านว่าได้มีกลุ่มพ่อค้าได้ลักลอบขนกระเทียมจากเมียนมาเข้ามาในไทย เพื่อรอการลำเลียงส่งให้นายทุนคนไทยในพื้นที่ อ.ขุนยวม เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่า เป็นความจริงและรายงานให้ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง โดยหลังจากที่ตนพร้อมด้วย ชุด ชรบ.เดินทางกลับปรากฏว่า กลุ่มนายทุนค้ากระเทียมเถื่อน ได้จ้างแรงงานชาวเมียนมา รีบขนกระเทียมกลับไปไว้ในฝั่งของประเทศเมียนมา
นายอุดม กล่าวอีกว่า สิ่งที่กลัวมากที่สุดคือการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในไทย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือสิ่งของอื่นๆ โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้ามาหางานทำในไทย ในขณะที่ในประเทศเมียนมายังมีการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก ซึ่งหากมีการปล่อยปละละเลย ของเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง อาจจะทำให้มีการนำเชื้อโรคโควิด-19 เข้ามาระบาดในไทยก็เป็นได้
