พบชายเมียนมานอนหมดสติกลางถนน ก่อนนำตัวส่ง รพ.สังขละบุรี เกรงหลบหนีเข้าเมือง ขณะที่ผู้นำชุมชน อสม.ยังลงพื้นที่บ้านแม่ติ้ว ตรวจวัดไข้ชาวบ้านกว่า 70 ราย หลังมีคนในหมู่บ้านเดินทางกลับจากการเยี่ยมญาติที่ประเทศเมียนมา
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 กันยายน น.ส.เนตรอัมพร เชียงทุมลำ พยาบาลวิชาชีพ รพ.สังขละบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพยาบาลประจำห้องฉุกเฉิน รพ.สังขละบุรี ได้รับแจ้งจากนายวสันต์ เกษมโสด พลเมืองดีว่าพบชายชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อ นอนอยู่กลางถนน บริเวณโค้งวัดสมเด็จ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยมีบาดแผลบริเวณใบหน้าและหัวเข่าเล็กน้อย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะตกรถและมีอาการคล้ายเมาสุรา สอบถามพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากนอนหมดสติอยู่กลางถนน ซึ่งเป็นทางโค้งและไม่มีไฟส่องสว่าง ขอให้นำรถพยาบาลมารับไปรักษาที่โรงพยาบาล
โดยระหว่างรอรถพยาบาลมารับ พยายามเรียกชายชาวเมียนมาคนดังกล่าว และสอบถามที่มาที่ไปและสาเหตุที่มานอนอยู่บนถนนในจุดที่เกิดเหตุ โดยชายชาวเมียนมาให้ข้อมูลว่าไปทำงานที่ตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครปฐม
เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นชาวเมียนมาที่ลักลอบเดินทางเข้ามา จะอาศัยอยู่ในพื้นที่มีการระบาดของโควิด-19 เมื่อสอบถามไม่ได้ข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำร่างชายชาวเมียนมาคนดังกล่าวขึ้นรถพยาบาลมายังโรงพยาบาลสังขละบุรี พร้อมทั้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี มาสอบถามถึงที่มาที่ไปของชายคนดังกล่าว
จนทราบว่าชื่อนายโจ เป็นชาวเมียนมา ก่อนหน้านี้ทำงานในตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครปฐม และนายโจได้ลักลอบเดินทางจะไปบ้านที่ประเทศเมียนมา โดยใช้ช่องทางด่านพระเจดีย์สามองค์ แต่ไม่สามารถผ่านด่านกลับไปได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่เฝ้าตามช่องทางต่างๆ จึงเดินเท้ากลับมายังตลาดสังขละบุรี เมื่อตอนค่ำก่อนจะนำเงินไปซื้อเหล้ากิน จนเมาและเดินทางออกจากตลาดโดยไร้ทิศทาง เนื่องจากไม่มีคนรู้จักและด้วยความเมา ก่อนจะมานอนหมดสติในบริเวณโค้งวัดสมเด็จ จนนายวสันต์ และเพื่อนมาพบ
เจ้าหน้าที่พยาบาลจึงได้วัดอุณหภูมิพบอุณหภูมิปกติ ไม่มีไข้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปพักที่ สภ.สังขละบุรี เป็นการชั่วคราว เพื่อดำเนินการผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านซองกาเลีย อสม. ตชด. ผู้นำชุมชน ยังคงเดินทางเข้าไปยังบ้านแม่ติ้ว ซึ่งเป็นกลุ่มบ้านซองกาเลีย หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าประมาณ 7 กิโลเมตร เพื่อติดตามวัดไข้ นายปีโป้ ทองผาภูมิประภา อายุ 20 ปี พร้อมทั้งภรรยา น้องภรรยา และลูกชายวัย 3 ขวบ และเพื่อนบ้านอีกกว่า 70 คน ภายหลังจากที่ นายปีโป้ ได้พาครอบครัวเดินทางไปเยี่ยมพ่อตาที่ประเทศเมียนมา นานกว่า 2 สัปดาห์ และเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยใช้เส้นทางธรรมชาติบ้านบ่อญี่ปุ่น ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 7 แล้ว จากการตรวจวัดไข้ทุกคนในหมู่บ้านพบว่ายังไม่มีใครมีอาการไข้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ยังจะต้องใช้มาตรการกักตัวชาวบ้านทั้งหมดไม่ให้ออกจากหมู่บ้านและลงพื้นที่ติดตามวัดไข้ จนกว่าจะครบ 14 วัน ตามมาตรการที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กำหนดไว้
