ตำรวจยโสธร จับ2โจ๋ค้ายาบ้า 1.6 แสนเม็ด – กัญชา 5 กก.

ตำรวจยโสธร จับ2โจ๋ค้ายาบ้า 1.6 แสนเม็ด – กัญชา 5 กก.

เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.ยโสธร พ.ต.อ.สงบ พิมพ์มลัย ผกก.สภ.คำเขื่อนแก้ว และพ.ต.ท.พิศิษฏ์ ศิลจตุพงศ์ สว.สส.สภ.เมืองคำเขื่อนแก้ว ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอิสระหรืออี้ด วิเศษบำรุงเจริญ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 และนายพงษ์อนันต์ หรือเท่ พันธ์เลิศ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ 2  พร้อมของกลางยาบ้า 168,200 เม็ด และกัญชาอัดแท่ง 5 กิโลกรัม

พล.ต.ต.อิทพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดจับกุมสืบทราบว่านายอิสระ หรืออี้ด ผู้ต้องหาที่1 มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานในพื้น ต.กู่จาน และพื้นที่ใกล้เคียงอยู่เป็นประจำ ต่อมาวันที่ 6 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่านายอิสระ ได้ลักลอบนำยาบ้าเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่จึงออกสืบสวนติดตามไปถึงถนนระหว่างบ้านขี้เหล็ก-ทุ่งมน บริเวณหน้าโรงแรมจันทร์เพ็ญรีสอร์ท ต.ลุมพุก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร พบนายอิสระ กำลังยืนอยู่ริมถนนเมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงอาการตื่น ตกใจกลัวและจะเดินเลี่ยงหลบหนี จึงเป็นเหตุอันควรสงสัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบและขอตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 200 เม็ด

จากนั้นจึงขยายผลตามคำรับสารภาพของนายอิสระ จนมาถึงบ้านเลขที่ 105 บ้านกำแมด หมู่1 ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร พบนายพงษ์อนันต์หรือเท่ ผู้ต้องหาที่ 2 พักอาศัยอยู่ในบ้านและแสดงตนเป็นเจ้าของบ้านชุดจับกุมจึงตรวจค้นภายในบ้านพักพบยาบ้าจำนวน 168,000 เม็ดและกัญชาจำนวน 5 กิโลกรัม วางซุกซ่อนรวมกันอยู่ในกระสอบอาหารสัตว์ สีขาว-ส้ม อยู่ในกระบะพ่วงรถไถนาเดินตามที่จอดอยู่ใต้ถุนบ้านพักของนายพงษ์อนันต์

นายพงษ์อนันต์ กล่าวว่า รับว่ายาบ้าทั้งหมดไม่ใช่ของตนเองแต่มีเอเย่นต์ส่งยาบ้ามาให้ เพื่อให้ขับรถส่งยาบ้าไปตามจุดต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยทำแบบนี้มาแล้ว 4 ครั้งได้ค่าจ้างต่อครั้งละ 16,000 บาท

Advertisement

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-2 ว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5(กัญชา)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวทั้งผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งพนักงานสอบสวน สภ.คำเขื่อนแก้วเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image