ชาวประมงพื้นบ้าน ล้อมเรือตำรวจน้ำสุราษฎร์ กดดันให้ปล่อยเรือประมงผิดกฎหมายที่ถูกจับ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 8 กันยายน พ.ต.อ.วัชชิรานนท์ นนท์นา ผกก.สถานีตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ได้รับรายงานจาก พ.ต.ต.กนกพงษ์ สำราญใจ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 2(สว.ส.รน.2 กก.6 บก.รน.) ผู้บังคับเรือตรวจการณ์ 78 ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ว่า ได้ถูกชาวประมงพื้นบ้านจำนวนมากนำเรือประมงพื้นบ้าน ประมาณ 10 ลำ เข้าล้อมเรือตรวจการณ์ 78 ระหว่างลากจูงเรือประมงผิดกฎหมายขนาด 9-10 ตันกรอส จำนวน 1 ลำที่ติดเครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายที่ถูกตำรวจน้ำร่วมกับเจ้าหน้าที่ประมงเข้าตรวจจับได้ในพื้นที่ อ.ไชยา จะนำกลับเข้าฝั่งเพื่อไปดำเนินคดี
จากการตรวจสอบพบว่า จุดที่ล้อมเรืออยู่บริเวณปากร่องน้ำแม่น้ำตาปี ต.คลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี มีชาวประมงพื้นบ้านกว่า 100 คน จากหมู่บ้านสันติสุข ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำเรือประมงพื้นบ้าน ประมาณ 10 ลำ เข้าล้อมกรอบเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำไว้ โดยมีนายอนุชา บินมูซา หรือบังหมัด อายุ 46 ปี ผู้ที่แจ้งถูกตำรวจชุดเฉพาะกิจภาค 8 กรรโชกทรัพย์เรียกเงินและล้อมรถตำรวจเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563
เป็นแกนนำเรียกร้องให้ปล่อยเรือประมงลำที่ถูกจับ พร้อมทั้งขอสิทธิ์ใช้เครื่องมือคราดเพื่อทำการประมง ซึ่งเหตุการณ์มีแนวโน้มบานปลาย เนื่องจากมีเรือประมงพื้นบ้านทยอยไปสมทบกดดันเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีเรือตรวจการณ์ทหารเรือทัพเรือภาคที่ 2 จำนวน 3-4 ลำ ทำได้เพียงลาดตระเวนรอบที่เกิดเหตุ
นายนิรันดร์ พรหมควร ประมงอำเภอไชยา กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่ ว่า มีเรือลากขนาดใหญ่ทำผิดกฎหมายเข้าไปทำการลากคราดปลิงทะเล และหอยแครงในพื้นที่ 3 ไมล์ทะเล บริเวณแหลมซุย ต.พุมเรียง อ.ไชยา จึงได้ประสานตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี เข้าทำการจับกุมเรือลำดังกล่าวไว้ได้ขณะพยายามแล่นหนีออกนอกเขตประมงพื้นบ้าน เมื่อทำการลากจูงจะนำมาลงบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ระหว่างทางก่อนถึงบริเวณปากทางเข้าร่องน้ำ ได้มีกลุ่มเรือประมงพื้นบ้านที่ส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องมือประกอบเครื่องกลในลักษณะเรือพาณิชย์ ซึ่งเป็นการทำประมงผิดกฏหมายที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในเขต 3 ไมล์ทะเลเข้ามาล้อมเรือเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
ต่อมานายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตำรวจน้ำและทหารเรือ ไปตรวจสอบโดยนายอนุชา เป็นตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านเสนอข้อเรียกร้องขอสิทธิใช้เครื่องมือคราดเพื่อทำการประมง ซึ่งจะมีการนัดประชุมหารือกัน และขอไม่ให้ดำเนินคดีกระทำผิดทำการประมง และการปิดล้อม แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตอบรับ
ล่าสุดรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการปิดล้อมเรือตรวจการณ์ ประมาณ 5 ชั่วโมง ระหว่างที่นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่กำลังเจรจากับนายอนุชา และตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านอยู่ช่วงพักการเจรจาได้มีชาวบ้านตะโกนว่า ให้ชาวบ้านนำเรือไปปิดปากอ่าวบ้านดอน ทำให้กลุ่มเรือประมงพื้นบ้านเกือบ 20 ลำ ต่างแตกฮือเร่งเครื่องออกเรือ ไปคนละทิศละทาง รวมทั้งเรือลำที่ถูกจับตอนต้นด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบมีการปิดอ่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุประกอบด้วยประมงจังหวัด ตำรวจน้ำ ตำรวจภูธร จะรวบรวมหลักฐานเพื่อหารือในการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ในข้อหาร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ และนำพาไปซึ่งของกลางทางคดี ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ นอกเหนือจากข้อหากระทำผิดการประมงและใช้เครื่องมือประมงโดยผิดกฎหมาย
