ก.อ.เคาะบัญชี 763 อัยการ ‘ม.ล.ศุภกิตต์’ ขึ้นเลขาฯสถาบันนิติวัชร์ ‘ประยุทธ’ ผงาดนั่งคดีพิเศษ 1 ‘เนตร นาคสุข’ นั่งอัยการอาวุโส

(ภาพจากซ้ายไปขวา) ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ ,ประยุทธ เพชรคุณ,วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ และสมคิด สายเจริญ

ก.อ.แต่งตั้งโยกย้ายอัยการ 763 ตำแหน่ง “ม.ล.ศุภกิตต์” ขึ้นเลขาฯสถาบันนิติวัชร์  “ประยุทธ”ผงาดนั่งคดีพิเศษ 1 “อัยการสมคิด” นั่งอาญา 3 แทน ”วัชรินทร์” อัยการเอฟบีไอ นั่งสอบสวน 2 ทำงานประสาน “กรวัชร์” อธิบดีดีเอสไอ พบ “เนตร นาคสุข” อนุมัติต่อ นั่งอัยการอาวุโสพระโขนงหลังยื่นหนังสือลาออก

เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 9/2563 ซึ่งมีวาระการพิจารณาเลื่อนแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการ โดยมีวาระเลื่อน

1.ระดับอธิบดีอัยการไปเป็นผู้ตรวจราชการ 1 ตำแหน่ง ได้แก่ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการคดีอาญาธนบุรี เป็นผู้ตรวจการอัยการ

2.พิจารณาเลื่อนขั้นสับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการอัยการชั้น 6 (พิเศษฝ่าย) 161 ตำแหน่ง

Advertisement

3.พิจารณาเลื่อนตำแหน่งข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นเป็นข้าราชการอัยการชั้น 6 (อัยการผู้เชี่ยวชาญขึ้นเป็นเชี่ยวชาญพิเศษ) 106 ตำแหน่ง

4. พิจารณาเลื่อนตำแหน่งข้าราชการอัยการชั้น 4 ขึ้นเป็นข้าราชการอัยการชั้น 5 (อัยการจังหวัดขึ้นอัยการผู้เชี่ยวชาญ) 109 ตำแหน่ง

5.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการชั้น 4 จำนวน 3 ตำเเหน่ง

Advertisement

6.พิจารณาเลื่อนตำแหน่งข้าราชการอัยการชั้น 3 ขึ้นเป็นข้าราชการอัยการชั้น 4 จำนวน 119 ตำแหน่ง

7.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการชั้น 3 จำนวน 6 ตำแหน่ง

8.พิจารณาเลื่อนตำแหน่งข้าราชการอัยการชั้น 2 ขึ้นเป็นข้าราชการอัยการชั้น 3 จำนวน 119 ตำแหน่ง

9.พิจารณาโยกย้ายอัยการอาวุโส จำนวน 34 ตำแหน่ง

10.พิจารณาแต่งตั้งอัยการอาวุโส จำนวน 105 ตำแหน่ง

โดยทุกตำแหน่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63 เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ก.อ.ครั้งนี้ มีตำแหน่งที่น่าสนใจจับตามองดังนี้

นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ไปดำรงตำเเหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการคดีพิเศษ1

สำหรับนายประยุทธ มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการที่คอยแถลงคดีสำคัญหลายคดี การได้เข้ามาดูคดีพิเศษ ซึ่งเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งจะเป็นคดีสำคัญหรือคดีอิทธิพล หรือการชุมนุมทางการเมือง สำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ นอกจากนี้ยังจบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด เช่น อัยการจังหวัดสมุทรปราการ อัยการจังหวัดสระบุรี อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุบลราชธานี จากนั้นขยับดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และตำแหน่งประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการสูงสุด ไปดำรงตำแหน่ง อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานการสอบสวน 2

นายวัชรินทร์เคยได้รางวัลอัยการดีเด่น เป็นอัยการจบหลักสูตร FBI จากสหรัฐ รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีเอสไอมือคุมคดีบิลลี่ เลื่อนจากอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษสำนักงานการสอบสวน 2 เป็นอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการสูงสุด ผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนลุยคดีปล้นปืน ได้เข้าเข้าเรียน วปอ. 62 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งรุ่นดังกล่าวมีนายทหารระดับผู้คุมกองกำลังพลเข้าเรียนจำนวนมาก การที่เข้ารับตำแหน่งอัยการสอบสวน 2 ถือว่ามีความเหมาะสม เพราะอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 ซึ่งรับผิดชอบงานสอบสวนคดีกับดีเอสไอคงมีความลงตัว เนื่องจากจบหลักสูตร FBi มาพร้อมกับอธิบดีดีเอสไอคนปัจจุบัน เชื่อว่าคงได้ร่วมสอบสวนคดีสำคัญแบบประสานงานกันราบรื่น

นายสมคิด สายเจริญ อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 ไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ซึ่งมีบทบาทรับผิดชอบคดีอาญาในเขตอำนาจพื้นที่ สน.ห้วยขวาง, สน.พญาไท, สน.เตาปูน, สน.บางโพ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคดีสำคัญเข้าสำนักงานจำนวนมาก

นอกจากนี้ในการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 8/2563 (18 ส.ค.ที่ผ่านมา) ยังมีตำแหน่งที่น่าสนใจคือ พิจารณาตั้ง ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ อัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย สำนักงานวิชาการ ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรมที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่และจะมีบทบาทต่อไปของสำนักงานอัยการสูงสุด

โดย ม.ล.ศุภกิตต์จบการศึกษา นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย, นิติศาสตรมหาบัณฑิต Howard University และ Pennsylvania State University เคยรับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2547 เคยดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคดีอัยการสูงสุด, ผู้ช่วยเลขานุการรองอัยการสูงสุด อัยการสูงสุด และเลขานุการรองอัยการสูงสุดหลายสมัย ปัจจุบัน อัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย สำนักงานวิชาการ เป็นอัยการสายวิชาการที่จะทำหน้าที่ในการออกแบบปรับโครงสร้างใหม่ของสำนักงานอัยการสูงสุดที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ยังพบว่าในการพิจารณาแต่งตั้งอัยการอาวุโสปรากฏชื่อนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดที่ลงนามสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโสสำนักงานคดีอาญาพระโขนง อีกด้วยหลังจากที่ปรากฏข่าวว่า นายเนตรเคยยื่นหนังสือลาออกจากอัยการ แต่อัยการสูงสุดยังไม่ได้มีคำสั่งอนุมัติ

อ่านบัญชีเลื่อนตำแหน่งและแต่งตั้งโยกย้ายอัยการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image