สภาทนายเตรียมออกหนังสือเชิญ” ธนิต บัวเขียว”อีกครั้งหลังเชิญครั้งแรกไม่มา อ้างคดียังพิจารณาต้องรักษาความลับลูกความ
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.63นายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการสภาทนายความ ในฐานะโฆษกสภาทนายความฯ กล่าวถึงการส่งหนังสือเชิญ นายธนิต บัวเขียว ทนายความนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ที่เป็นผู้ร้องขอความเป็นธรรมแก่ คณะ กมธ.กฎหมายฯสนช.จนมีการพิจารณามีคำสั่้งคดีใหม่ เข้ามาให้ปากคำกับคณะกรรมการที่สภาทนายความตั้งขึ้นเพื่อรับช่วงต่อจากคณะทำงานชุดนายวิชา มหาคุณ ที่นากยกรัฐมนตรีตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ในวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา นายธนิตไม่ได้เข้ามาให้ถ้อยคำโดยมีการส่งหนังสือแจ้งมายังสภาทนายความว่าเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญาซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีไม่แล้วเสร็จ ในฐานะทนายความต้องรักษาความลับของลูกความขณะนี้จึงยังไม่สามารถให้ถ้อยคำได้ นั้น หลังจากนี้เราคงต้องพิจารณาในการออกหนังสือเรียกอีกครั้งส่วนจะเป็นวันใดนั้นจะต้องขอประชุมคณะกรรมการก่อนจึงจะกำหนดวันนัดอีกครั้งได้ ส่วนถ้าครั้งหน้าเราส่งหนังสือแล้วยังไม่มาอีกก็จะต้องให้คณะกรรมการมรรยาทพิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนจะดำเนินการได้อย่างไรบ้างเราต้องรวบรวมข้อเท็จจริงอีกครั้ง ขณะนี้เรามีหนังสือไปยัง นายวิชา มหาคุณ ซึ่งเป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบคดีนี้ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นเพื่อขอให้ส่งรายละเอียดข้อมูลของทนายความที่ไปเกี่ยวข้องในคดี ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วเราจึงค่อยพิจารณาว่า สิ่งที่ทนายความได้กระทำไปเป็นภายในกรอบจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและกฏหมายหรือไม่ ถ้าปรากฏว่าอยู่ในกรอบกฏหมาย เราในฐานะสภาวิชาชีพก็จะต้องปกป้องว่าทนายได้ทำถูกต้องแล้วเพราะเราเป็นอาชีพรับจ้าง มีคนจ้างงานว่าความมาก็ต้องทำ แต่ถ้าข้อเท็จจริงส่อไปในทางมิชอบ หรือทำเกินเลยไปในทางไม่สุจริต เราก็จะดำเนินคดีมรรยาท ส่วนการที่ไม่ยอมมาตามหนังสือเชิญเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ตนมองว่าก็ยังนับว่ามีเหตุผลเพราะเป็นทนายความจะต้องรักษาความลับของลูกความตามหลักมรรยาท แต่ในคดีนี้เป็นคดีที่สังคมมีข้อกังขาว่า ที่นายวิชา แถลงมาฟังได้ว่าเป็นกระบวนการสมคบคิดหลายองค์กรกระทำการที่ไม่สุจริตเพื่อให้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ในแง่ของกระบวนการมีทนายเข้าไปเกี่ยวข้องและมีชื่อนายธนิต อยู่ด้วยเราจึงต้องดูว่าสิ่งที่มีการกล่าวอ้างถึงเป็นไปตามกรอบแห่งวิชาชีพหรือไม่อย่างไร เราจึงต้องเชิญมาให้ข้อมูล
