‘ณัฏฐพล’ ย้ำ ‘องค์การค้า’ เลือกจ้างพนักงานที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี
เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้เน้นย้ำ ให้องค์การค้าการจ้างพนักงาน จากการสรรหาและเปิดรับสมัครจากงานจ๊อบเอ็กซ์โปร์ 2020 วันที่ 26-28 กันยายนนี้ ทั้งนี้ได้เน้นย้ำว่าการรับพนักงานถึงจะเป็นตำแหน่งชั่วคราว ก็อยากให้รับคนที่มีความสามารถในเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาด้วย เพราะปัจจุบันการตลาดการขายต้องได้รับการผสมผสานระหว่างการขายหน้าร้านและการขายผ่านออนไลน์ด้วย ซึ่งสามารถพริจารณาได้ทั้งพนักงานเก่าและพนักงานใหม่ เพียงแต่ต้องคำนึงถึงอัตราค่าจ้างที่ต้องมีความเหมาะสมด้วย ทั้งนี้ตนรับรายงานว่าจากที่องค์การค้า ประกาศเลิกจ้างพนักงาน จำนวน 227 คน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 มีพนักงานบางส่วนได้ฟ้องร้องเรื่องการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมกับองค์การค้า ซึ่งตนย้ำว่าขอให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนการประชุม สกสค. ตนมอบมหายให้ สกสค.กลับได้ดูทรัพย์สินที่มีอยู่นั้น มีทรัพย์สินใดบ้างที่ผูกพันไปถึงองค์การค้า จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ได้อย่างไรบ้าง
ด้านนายธนพร สมศรี เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า จากการที่องค์การค้า เลิกจ้างพนักงานจำนวน 961 คนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าพนักงานเหล่านี้ได้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อองค์การค้า ซึ่งการเลิกจ้างครั้งนี้ไม่ได้มาจากการโกรธแค้นส่วนตัว หรือมีแผนเอาคนมาแทนที่พนักงานเดิม แต่เลิกจ้างเพราะผลประกอบการขาดทุนกว่า 7 พันล้านบาท
“ผมมองว่าอาจจะมีพนักงานประมาณ 50% ที่ยื่นฟ้องต่อศาล เพราะพนักงานบางส่วนมีหนี้กับธนาคารออมสิน เพราะในอดีตธนาคารออมสินยอมให้พนักงานองค์การค้ากู้เงินจากโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ได้ เนื่องจากตีความบุคคลเหล่านี้เป็นบุคลากรทางการศึกษา เมื่อบุคคลเหล่านี้ถูกเลิกจ้างและได้รับเงินชดเชย ธนาคารออมสินมีสิทธิหักเงินชดเชยที่พนักงานได้รับ ซึ่งพนักงานบางส่วนไม่อยากให้ธนาคารออมสินหักเงินไป จึงเลือกฟ้ององค์การค้าดีกว่า” นายธนพร กล่าว
