นายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้กระทบต่อการทำธุรกิจและเป้าหมายรายได้ของบริษัท โดยยังคงรักษาการเติบโตช่วง 8 เดือนไว้ได้ 10% และคาดยอดขายทั้งปีนี้จะโต 10%และมียอดขายรวม 5,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขายกว่า 4,900 ล้านบาท หากเทียบกับธุรกิจขายตรงแบบเอ็มแอลเอ็ม(ธุรกิจเครือข่ายด้วยระบบการตลาดหลายชั้น)รายอื่นซึ่งมีทั้งติดลบและเติบโตจึงทำให้ตลาดรวมปีนี้ไม่โตและคงมูลค่ารวม 8 หมื่นล้านบาท
นายพงศ์พสุ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตได้ดี เนื่องจากบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการตั้งแต่ปี 2561 โดยเริ่มนำระบบการสั่งซื้อและการอบรมสมาชิกผู้แทนจำหน่ายผ่านออนไลน์ ควบคู่กับออฟไลน์ที่มีสาขาทั่วประเทษ 105 แห่ง ซึ่งยอมรับว่าในช่วง2ปีแรกสมาชิกยังใช้ระบบออนไลน์น้อยมาก จนเมื่อเกิดการระบาดของโควิดและหยุดการอบรมแบบพบปะ ทำให้ระบบออนไลน์กลับมาใช้งานเป็นหลัก อีกทั้งปัญหาการตกงานว่างงานเพิ่มขึ้นและรายได้ที่ลดลงมากขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้สมาชิกส่วนหนึ่งที่สั่งซื้อเพื่อใช้เอง เริ่มสั่งซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ และบางส่วนต้องการหารายได้เสริม ทำให้เกิดสมาชิกใหม่เพิ่มเดือนละ 4-5 พันราย ทำให้บริษัทมีฐานสมาชิกถึง 8 ล้านคน
” ขณะนี้เรากำลังติดตาม 3 ปัจจัยที่จะส่งผลต่อการทำธุรกิจ คือ โควิดระบาดอีกครั้งอาจควบคุมไม่อยู่ต้องปิดกิจการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ปัญหากำลังซื้อในสินค้าบางชนิดลดลงเพราะคนต้องระมัดระวังใช้จ่ายซื้อสินค้าที่มองว่าจำเป็นที่สุดก่อน และอัตราว่างงานที่สูงขึ้นจนกระทบต่อรายได้และกำลังซื้อ ทำให้บริษัทต้องเตรียมแผนรับมือ 2-3 แบบ รวมถึงกำลังเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ส่งท้ายปีเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้ออีก 4-5 รายการ ซึ่งเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการช่วงโควิด เช่น อาหารเสริม ทำความสะอาด และเครื่องสำอางฉลองปีใหม่ และเตรียมแคมเปญฉลองครบ 25 ปีในเดือนมีนาคมปี 2564 โดยยังคงเป้าหมายดันยอดขายรวมโตอีก 10% ” นายพงศ์พสุ กล่าว