ผู้บริหารโรงเรียนตั้งโต๊ะแถลง โรงเรียนไม่เกี่ยว เหตุรุ่นพี่ม.3 ทำร้ายน้องป.2 ทะเลาะกัน เงินเยียวยาคู่กรณีต้องตกลงกันเอง

ความคืบหน้ากรณีพี่ ม.3 ตบตีทำร้ายร่างกายน้องป.2 วัย 8 ขวบ ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ศีรษะ หลังมือ และกลางหลัง เหตุเพราะน้องป.2 ล้อเลียนพี่ม.3 ว่าเป็น “กะเทย” โดยแม่ของน้องป.2 ออกมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องที่เกิดขึ้น

ล่าสุด ผู้บริหารโรงเรียนนำโดยนายอำนวยพร เชยชื่นจิตร ผู้อำนวยการ นายสุพจน์ จริงจิตร ผู้จัดการโรงเรียน นางวิภาพร อึ่งทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ นายสมชาย บุญรินทร์ ครูผู้ช่วยฝ่ายปกครอง พร้อมครูประจำห้องพยาบาล และครูประจำชั้นป.2 เปิดโรงเรียนวัดนิกรรังสฤษฎ์ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง แถลงชี้แจงกรณีกระแสข่าวที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าทางโรงเรียนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับทางโรงเรียน เพราะเป็นเรื่องที่เด็กนักเรียนทะเลาะกันเอง ซึ่งครู และทางโรงเรียนได้เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะรีบนำตัวน้อง ป.2 ส่งโรงพยาบาล และโทรศัพท์แจ้งผู้ปกครองให้รับทราบเหตุในทันที

กรณีที่ผู้ปกครองน้อง ป.2 เข้าแจ้งความร้องทุกข์นั้น เป็นเรื่องของผู้ปกครองน้องป.2 ดำเนินการกับรุ่นพี่ ม.3 ทางโรงเรียนเป็นแค่พยาน กรณีที่ผู้ปกครองน้องป.2 เรียกร้องเงินชดเชยจำนวน 300,000 บาท เพื่อเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจน้องและครอบครัวนั้น ทางโรงเรียนไม่เห็นสมควรว่าจะต้องจ่ายเพราะเป็นเหตุที่นักเรียนทะเลาะกัน ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ครูทำร้ายเด็ก เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงกันเอง

ด้านครูสมชาย ซึ่งเป็นครูที่เข้าไปช่วยเหลือน้อง ป.2 เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 2 กันยายนนั้น เป็นเวลาพักเที่ยง ตนเดินไปที่โรงอาหาร ก็ไปพบเด็กชายน้องป.2 นอนฟุบอยู่บนพื้น จึงเข้าไปสอบถามเด็กๆที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้นว่า เกิดอะไรขึ้น และตรวจดูพบหน้าผากถลอกนิดๆ แก้มช้ำ ปากแตก เหนือริมฝีปากมีรอยถลอก ได้รับคำตอบจากเด็กๆที่เห็นเหตุการณ์ว่า “ทะเลาะวิวาทกัน” จากนั้นได้ช่วยยกเด็กขึ้นมา ปรากฏว่า พี่ ม.3 ก็ได้เข้ามาตบซ้ำไปอีก 1 ครั้ง ซึ่งเป็นช่วงที่ยกน้องขึ้นมาและไม่ทันระวัง เพราะไม่ทราบเหตุการณ์มาก่อน ทั้งนี้ได้กล่าวตักเตือนและห้ามพี่ม.3 ไปหลายครั้งว่าอย่าทำร้ายน้อง ก่อนจะพาน้องป.2 ไปห้องพยาบาล เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น และแจ้งผู้บริหาร พร้อมส่งน้อง ป.2ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลทันที

Advertisement

ด้านนางวิภาพร อึ่งทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า ปกติน้องป.2 จะเป็นเด็กสมาธิสั้น ถ้ามีอะไรมากระทบก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้ เคยทำร้ายร่างกายเพื่อนด้วยการทิ่มด้วยดินสอ ก็มีการเรียกผู้ปกครองมาคุย และบอกให้เร่งทำการรักษา แต่ในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนได้รับผิดชอบในส่วนของทางโรงเรียนแล้ว เช่น เร่งเข้าช่วยเหลือ และเร่งพาเด็กส่งโรงพยาบาล หากไม่รับผิดชอบก็จะไม่เข้าไปช่วยเหลือ จะไม่พาส่งโรงพยาบาล และหลังเกิดเรื่องก็ได้สอบถามเหตุการณ์จากหลายคนทราบว่า สาเหตุเกิดจากน้องป.2 ชอบล้อเลียนพี่ ม.3 หลายครั้ง ซึ่งทางครูประจำชั้นก็เคยอบรมห้ามปรามว่าอย่าล้อเลียนพี่ วันเกิดเหตุก็มีการล้อเลียนกันอีกหลายๆครั้ง ทำให้พี่ทนไม่ได้ จึงเข้าทำร้ายทุบตี

“ยืนยันว่าเป็นการทะเลาะวิวาทกันของเด็กนักเรียน ทั้งนี้ ได้สั่งลงโทษพี่ม.3 ให้พักการเรียน 7 วัน ยืนยันทางโรงเรียนได้รับผิดชอบในส่วนของทางโรงเรียนแล้วอย่างดี หลังจากนั้นเมื่อมีการนัดมาตกลงกัน ทางผู้ปกครองเรียกร้องค่าเสียหายจากทางโรงเรียนและผู้ปกครองรุ่นพี่คู่กรณีรวมกันจำนวน 3 แสนบาท ไปที่โรงพักก็บอกว่าเรียกร้องตามจำนวนนั้น โดยทางโรงเรียนก็ไม่จำเป็นต้องต่อรอง เพราะเรื่องค่าเสียหายไม่เกี่ยวกับทางโรงเรียน เป็นเรื่องที่คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไปตกลงกันเอง และตำรวจก็ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับโรงเรียน เป็นเรื่องของคู่กรณี ทางโรงเรียนจึงไม่จำเป็นจะต้องจ่าย หรือหากจะจ่ายก็ต้องให้ศาลสั่ง หรือตำรวจสั่ง” นางวิภาพร กล่าว

ทางด้าน นายสุพจน์ จริงจิตร ผู้จัดการโรงเรียน กล่าวยืนยันว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวกับโรงเรียนเฉพาะการเกิดเหตุเกิดที่โรงเรียนเท่านั้น ซี่งทางโรงเรียนได้ทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดแล้ว ทั้งการเข้าช่วยเหลือเด็ก นำส่งโรงพยาบาล และตามไปที่โรงพยาบาลหรือหากมีค่าใช้จ่ายวันนั้นทางโรงเรียนก็พร้อมจะจ่าย แต่ที่ผู้ปกครองมาเรียกค่าเสียหาย3แสนบาทเพื่อเยียวยานั้น ทางโรงเรียนจ่ายให้ไม่ได้จริงๆ เพราะไม่เกี่ยวกับโรงเรียนๆเป็นแค่พื้นที่ที่ทะเลาะกัน เป็นเรื่องของผู้ปกครองทั้ง2ฝ่ายที่จะต้องเจรจาด้วยกัน กรณีนี้ถ้าโรงเรียนจ่ายต่อไปนักเรียนทะเลาะวิวาทกันทางโรงเรียนจะต้องจ่ายทุกกรณีหรือ อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นทางครูก็ได้ขอโทษพ่อน้องป.2ไปแล้วเช่นกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image