เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.ควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ บช.ทท. ปฎิบัติหน้าที่ชุดสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) จับกุม นายนิตินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงดุสิต ความผิดฐานฉ้อโกง ได้ที่ใต้ตึก 3 คอนโดทาวน์แห่งหนึ่ง ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา น.ส.ณัฐชมนต์ ธิติมงคลไพศาล นักธุรกิจโรงงานเสื้อผ้า เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดี กับบุคคลที่ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Jean Hudeska ซึ่งหลอกเป็นแอดมินเพจซื้อขายของแบรนด์เนม และหลอกให้ น.ส.ณัฐชมนต์ ซึ่งเป็นผู้ขายกระเป๋าโอนเงินมัดจำให้จำนวน 27,000 บาท เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่โกงลูกค้าที่สนใจซื้อกระเป๋า และหากซื้อขายกันเสร็จทางแอดมินจะโอนเงินคืนให้
โดยพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี สอบสวนปากคําผู้เสียหาย และประสานชุดสืบสวน ศปอส.ตร.ส่งมอบคดีต่อไปยังท้องที่เกิดเหตุ สน.ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุโดยตรงไปดำเนินคดีตามกฏหมาย สำหรับนายนิตินัย ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ในท้องที่ สน.พญาไท ด้วย โดยพนักงานสอบสวนรับคําร้องทุกข์และมีการออกหมายจับ ปัจจุบันฝ่ายสืบสวนของ ศปอส.ตร.แจ้งว่ารับข้อมูลจากผู้เสียหายในคดีว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการปลอมเป็นแอดมินเพจและหลอกผู้เสียหายอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายท้องที่ ผู้เสียหายบางรายเคยเห็นหน้าคนร้ายและมีการดูภาพถ่าย ภายหลังโดยผู้เสียหายหลายคนเห็นภาพใบหน้าและมีการยืนยันว่าเป็นคนร้าย
นายนิตินัย ผู้ต้องหาสารภาพว่าเข้าไปอยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีการขายสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนม หรือนาฬิการาคาแพงต่างๆ เมื่อพบเป้าหมายประกาศขายสินค้า ก็จะอินบล็อก ติดต่อซื้อสินค้าจากผู้ขายนั้น เมื่อตกลงซื้อขายแล้ว ได้ใช้อุบายอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ให้ทำการซื้อขายผ่านแอดมินของกลุ่มเฟซบุ๊กนี้ หากผู้ขายตกลงก็จะให้คิวอาร์โค้ดแจ้งว่าเป็นไลน์ของแอดมินกลุ่ม ผู้ขายสินค้าก็จะแอดเพิ่มเพื่อนตามคิวอาร์โค้ด นั้นโดยคิดว่าเป็นแอดมินของกลุ่ม ในส่วนของผู้ต้องหาคิวอาร์โค้ด ที่ให้ไปนั้น เป็นของคน ก็จะปลอมตัวเป็นเป็นแอดมินกลุ่มดังกล่าว เมื่อเจรจากับผู้ขายสินค้าแล้ว ก็จะอ้างว่าเพื่อความมั่นใจว่าผู้ขายจะส่งสินค้าให้ผู้ซื้อแน่นอน ไม่ขายให้รายอื่น ขอให้ผู้ขายวางเงินมัดจำไว้ที่แอดมินกลุ่มในอัตรา 40% ของราคาสินค้า โดยเมื่อผู้ขายหลงเชื่อ ได้โอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีที่ผู้ต้องหาให้ไว้ ผู้ต้องหาก็จะลบบัญชีเฟซบุ๊กและไลน์
นอกจากนี้ มีผู้เสียหายในคดีนี้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 7 สน. พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ในคดีความผิด “ฉ้อโกง” ตาม ป.อาญา ม.341 แต่จากพฤติการณ์การกระทำผิดนั้น เป็นการกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ตาม ป.อาญา ม.342(1) ซึ่งเป็นบทหนัก จะได้ประสานพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อสืบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
