เมื่อวันที่ 30 กันยายน พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย คุมตัวนายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนชิงทองรูปพรรณ 216.5 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท มาทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาวังหิน ที่นายชัยมงคล ใช้อาวุธปืนก่อเหตุ จากนั้นไปจุดที่ 2 ข้างคลองลาดพร้าว หลังวัดสิริกมลาวาส เขตจตุจักร กทม.ที่ผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์ระหว่างทางถอดเสื้อทิ้งลงคลองลาดพร้าวก่อนหลบหนีไป
พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่าผู้ต้องหามีอาการเครียด เจ้าหน้าที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นยินยอมมาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ น.ส.จันดา จันทร์โศก ภรรยาชาวลาว พบว่าเข้าเมืองมาโดยถูกกฎหมาย แต่ช่วงการระบาดเชื้อโควิด กลับประเทศไม่ได้ สาเหตุที่ก่อเหตุเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่านำเงินไปช่วยคดีให้ญาติ และจะนำเงินอีกส่วนหนึ่งไปใช้ตั้งตัวในประเทศลาวกับภรรยา ส่วนนายสุริยันต์ นิลบรรพต เพื่อนผู้ต้องหา นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาข้อหารับของโจร
ด้านนายชัยมงคล รับว่าก่อเหตุชิงทรัพย์เพียง 3 ครั้ง ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จ.ปทุมธานี และกรุงเทพฯ ส่วนกรณีการชิงทองในห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 4 ขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีส่วนรู้เห็น แม้จะมีแผนประทุษกรรมที่คล้ายกัน หลังทำแผนเสร็จตำรวจคุมตัวนายชัยมงคล มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมที่ สน.โชคชัย ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาวันที่ 1 ตุลาคม
