‘จุรินทร์’ ร่วมถกทางไกลกรอบอ่าวเป่ยปู้ 15 ต.ค. ยกระดับ-เชื่อมโยงเศรษฐกิจไทย-จีน

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมปาฐกถา พิเศษเพื่อพิธีเปิดการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11 (11th Pan-Beibu Gulf Economic Cooperation Forum) ซึ่งจะจัดในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน โดยนายจุรินทร์จะเข้าร่วม โดยใช้ปาฐกถาผ่านระบบการประชุมทางไกล ทั้งนี้ นายจุรินทร์จะหารือเรื่องท่าเรือสากลการเสริมสร้างระเบียงทางการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลระหว่างประเทศแห่งใหม่ในยุคสมัยใหม่ของกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจนี้ ซึ่งที่ประชุมจะได้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาระเบียงทางการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือและเส้นทางขนส่งทางบก ความร่วมมือและการพัฒนาด้านการขนส่งในหลายรูปแบบ และการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการ ทางศุลกากรระหว่างประเทศสมาชิก

นางมัลลิกากล่าวว่า การพัฒนาความเชื่อมโยงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าเกษตรและผลไม้ของไทยไปจีนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงของประเทศ โดยนโยบายไทยเราพร้อมใช้จุดแข็งด้านยุทธศาสตร์ที่ตั้งของประเทศร่วมมือกับจีน ในการขยายความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านการขนส่งทางทะเล และการพัฒนาความร่วมมือระหว่างท่าเรือของประเทศรอบอ่าวและต่อยอดการใช้ประโยชน์จากการเปิดตลาด ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ซึ่งปัจจุบันมีการยกเลิกการเก็บภาษีสินค้าระหว่างกันกว่าร้อยละ 90 ของรายการสินค้าทั้งหมดแล้ว

นางมัลลิกากล่าวว่า จีนยังเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับจีนเมื่อปี 2562 มีมูลค่า 79,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 16.4 สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนไทยนำเข้าจากจีนมูลค่า 50,300 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าเข้ามา เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก และเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์

“รองนายกฯจุรินทร์ ให้ความสำคัญความร่วมมือนี้เพื่อพัฒนาให้อ่าวเป่ยปู้หรืออ่าวตังเกี๋ย เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อขยายการค้าการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก เน้นหารือเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการขนส่งทางบกและทางทะเล โดยเฉพาะการพัฒนาความร่วมมือระหว่างท่าเรือของประเทศสมาชิก ซึ่งรองนายกฯจุรินทร์เห็นว่าจีนโดยรัฐบาลเขตปกครองตนเองกว่างซีเป็นเจ้าภาพจัดประชุมความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้มาแล้ว 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งสมาชิกประกอบด้วยประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับอ่าวเป่ยปู้ หรืออ่าวตังเกี๋ย และทะเลจีนใต้ ได้แก่ จีน โดยเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (กว่างซี) มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลไห่หนาน และเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน และไทย และจากนโยบายของนายจุรินทร์ที่ผ่านมามีผู้แทนระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมการประชุมความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เป็นการกระชับความสัมพันธ์ ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับจีนและประเทศสมาชิกในภูมิภาคอีกทางหนึ่ง” นางมัลลิกากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image