นายชวิณ เจียรวนนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหารกลุ่มบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ และกองทุนไนน์ เบซิล เปิดเผยว่า ได้วางแผนให้กองทุน ไนน์ เบซิล เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ให้กับธุรกิจต่างๆ เพื่อช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่โดดเด่นและมีศักยภาพในตลาดนั้นๆ โดยมองหาธุรกิจที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของตลาด ให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุน (ROIC)สูง มีโครงสร้างการลงทุนที่เพิ่มมูลค่าระยะยาว โดยให้น้ำหนักการลงทุนกับธุรกิจในประเทศไทย เป็นอันดับต้นๆ
ทั้งนี้ จากการจัดตั้งกองทุนไนน์ เบซิลทำให้พอร์ตโฟลิโอการลงทุนทั้งหมดของกลุ่มบลูพริ้นท์ ฟอเรสต์มีทั้งหมด 4 กองทุน รวมถึง ลอสเลสแคปปิตอล โอเพนฟอเรสต์ และบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ ซึ่งเพิ่มมูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารทั้งหมดมากขึ้น 1.5 หมื่นล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2562
นายชวิณ กล่าวว่า ธุรกิจที่เราให้ความสนใจ ตอนนี้คือ ธุรกิจบริการด้านการเงิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เงินติดล้อ ธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่เปิดสาขาอยู่ทั่วประเทศ มีแพลตฟอร์มจากปล่อยสินเชื่อโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ใช้ดาต้าช่วยดำเนินธุรกิจ เงินติดล้อไม่เพียงแค่สามารถเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล แต่ยังสามารถเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำของตลาดด้วย
“เราหวังช่วยเปิดตลาดใหม่ๆ และส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจต่างๆ ที่เราไปร่วมลงทุน เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจนั้นเติบโตไปได้อีกขั้น ซึ่งจุดแข็งของเราคือการเปิดประตูสู่เครือข่ายธุรกิจต่างๆ ในเอเชียให้เชื่อมโยงกัน และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในมิติต่างๆ ถือได้ว่า ไนน์ เบซิลคือพลังของกลุ่มลงทุนรุ่นใหม่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
นายกฤษณ์ พานิชพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร กองทุนไนน์ เบซิล กล่าวว่า หัวใจสำคัญของกองทุนนี้ก็คือกระบวนการวิจัย อะไรคือสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจ เราจะศึกษาให้ถึง แก่นของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง เราสร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดและปฏิบัติให้เห็นผลได้จริง และจะดำเนินการเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม การลงทุนของเราไม่ได้เป็นไปตามทฤษฎี แต่เป็นจากมุมมองและประสบการณ์ของธุรกิจที่เราดำเนินอยู่ในสังคมธุรกิจนั้นๆ
” บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ บริหารจัดการกองทุนให้กับครอบครัวกลุ่มธุรกิจชั้นนำกว่า 25 กลุ่มใน 9 ประเทศ และภายใน 5 ปีข้างหน้า บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ ตั้งเป้าจะลงทุนต่อปีอีก 2-3 ธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีคุณภาพ ” นายกฤษณ์ กล่าว
