‘ทวี สอดส่อง’ ควง ‘ชัยธวัช-เบญจา ‘ เยี่ยมแกนนำคณะราษฎร ตชด.ภาค 1 แนะต้องใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม หากจะจับกุมผู้ชุมนุม ต้องจับกุมทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาชาติ(ปชป.) พร้อมนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคและน.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้เข้าไปเยี่ยมน.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ และน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว แกนนำกลุ่มคณะราษฎร หลังถูกตำรวจควบคุมตัวหลังเสร็จสิ้นการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่ได้ชุมนุมตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเคลื่อนไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาล เมื่อค่ำคืนวันที่ 21 ตุลาคม 2563 และมีนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ เป็นประชาชนจ.นนทบุรีได้ถูกจับกุมในช่วงเช้าและนำตัวควบคุมไว้ที่ ตชด. ภาค 1 อยู่ด้วย
ภายหลังออกมาจากการเยี่ยมผู้ถูกจับกุมเมื่อเช้ามืดเวลา 02.30 น. ของวันที่ 22 ตุลาคมโดยมีกลุ่มเพื่อนนักศึกษานั่งรอฟังข่าวอยู่ที่เตนท์ด้านหน้า โดยพ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การชุมนุมในวันนี้เป็นการชุมนุมที่สงบเรียบร้อยที่สุด ตามสิทธิเสรีภาพ หลังชุมนุมกันเสร็จจะช่วยกันเก็บขยะทำความสะอาดถนนบริเวณที่มีการชุมนุม ผู้ชุมนุมมีความรับผิดชอบซึ่งถือว่าเป็นความสวยงามมาก ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดูแลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแต่สิ่งที่ปรากฏหลังจากการชุมนุมคือรัฐบาลโดย พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี ได้เลือกใช้วิธีจับกุมแกนนำในเวลากลางคืน ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้ออกโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่าการชุมนุมของประชาชนที่ไม่พอใจการบริหารราชการของรัฐบาลถือว่าเป็นการชุมนุมโดยถูกกฎหมาย โดยได้เรียกร้องให้ลาออก หรือยุบสภา หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นไปตามวิธีการตามรัฐธรรมนูญ
“แต่การที่นายกรัฐมนตรีใช้ช่องทางเจ้าหน้าที่รัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเข้าไปจับกุมนั้น ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกจับสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญาได้ด้วย แม้จะอ้างว่าไปขอหมายศาล แต่รัฐธรรมนูญฉบับช่วงหลังมานี้เขียนว่ารัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐหรือศาลหรือองค์กรอิสระหรือรัฐสภาต้องปฏิบัติตามหลักนิติธรรม หมายถึงบุคคลทุกคนต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน หากคนจำนวนหมื่นคนหรือแสนคนมาชุมนุม ทุกคนก็จะต้องได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมกัน และหากจะดำเนินคดีก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยรวมตัวชุมนุม ถือเป็นการกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินเช่นกัน หากจะถูกจับกุมก็ต้องถูกจับกุมเหมือนกัน แต่รัฐบาลเลือกจะจับกุมแกนนำเครื่องจะกดไม่ให้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะการเลือกปฏิบัติจะนำไปสู่ความขัดแย้ง”เลขาธิการพรรค ปช.กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังจะใช้ช่องทางรัฐสภา ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐสภา แต่อยู่ที่การบริหารของพลเอกประยุทธ์ คือเข้ามาเพื่อเปลี่ยนความคิดหรือทำลายล้างประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ต้องให้มีความคิดเหมือนตน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และการบริหารมักจะส่งเสริมสนับสนุนทุนนิยม ไม่ดูแลประชาชน ประชาชนจึงออกมาลุกขึ้นเรียกร้องชุมนุม การจับกุมตัวในเวลากลางคืน แล้วนำมาควบคุมตัวในที่ที่ห่างไกล จากจุดจับกุมกว่าร้อยกิโลเมตร เป็นการกระทำที่กดประชาชน จึงขอเรียกร้องว่าความยุติธรรมต้องนำการเมือง จึงขอเรียนไปยังผู้บังคับใช้กฎหมายว่า ให้บังคับใช้กฎหมายตามหลักนิติธรรม โดยต้องรู้ศักดิ์ของกฎหมาย การยึดคำสั่งของพลเอกประยุทธ์สูงสุดกว่ารัฐธรรมนูญ จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง เรื่องนี้น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง