‘จุรินทร์’ มั่นใจรัฐสภาเป็นเวทีหาทางออกให้บ้านเมือง

‘จุรินทร์’ มั่นใจรัฐสภาเป็นเวทีหาทางออกให้บ้านเมือง วอนทุกฝ่ายยึดหลัก สันติ-ไม่ใช้ความรุนแรง ยันเป็นเจตนาดีของ รบ.ไม่ใช่เจตนาร้ายให้เปิดวิสามัญ

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีข้อเรียกร้องของกลุ่มคณะราษฎรว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงก็จะเข้าไปดู แต่หลักใหญ่ที่เราเคยพูดกันไว้คือ รัฐบาลไม่ประสงค์จะใช้ความรุนแรงใดๆ เพราะฉะนั้นถ้าทุกฝ่ายมีเป้าหมายตรงกันว่าต้องการยึดแนวทางสันติไม่ใช้ความรุนแรงทุกอย่างก็น่าจะผ่านพ้นไปได้ และถ้ามีประเด็นไหนค้างคาก็สามารถที่จะพูดจากันเพื่อที่จะหาทางออกร่วมกัน ซึ่งในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งตนได้เสนอทางออกไปแล้ว อย่างน้อยในส่วนของประชาธิปัตย์ก็อยากเห็นผลของการประชุม 2 วันในการเปิดประชุมวิสามัญนั้นได้ข้อสรุปในการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาชุดหนึ่ง ประกอบด้วย ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน วุฒิสภา และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้มาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน อะไรที่มีความเห็นพ้องหรือเป็นความเห็นที่ตรงกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเร่งรีบในการนำไปปฏิบัติให้บรรลุผล ส่วนอะไรที่ยังไม่ตรงกัน ยังเห็นแย้งกันอยู่ ก็ใช้เวลานิดหน่อยในการที่จะคุยกันต่อไป ด้วยเหตุด้วยผลเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป ถ้าเป็นแนวทางนี้ตนคิดว่าบ้านเมืองก็จะเดินหน้าต่อไปได้ ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาของเราก็ยังเดินหน้าได้ และจะเห็นชัดว่ารัฐสภาก็จะเป็นที่พึ่งและเป็นเวทีหาทางออกให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง เชื่อว่าทุกฝ่ายก็อยากมีประชาธิปไตยเกิดขึ้น ถ้าเราอยากเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นจริงๆ เดินหน้าต่อได้จริงๆ ต้องช่วยกันใช้รัฐสภาเป็นเวทีร่วมกันแสวงหาทางออก

ส่วนที่บางฝ่ายมีความคิดว่ารัฐบาลต้องการเปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อที่จะมาถล่มฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญนั้นเกิดจากเสียงเรียกร้องของทุกฝ่าย ประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่แถลงตั้งแต่เบื้องต้นว่าเราอยากเห็นการเปิดสภาสมัยวิสามัญเกิดขึ้น และทุกฝ่ายก็เห็นตรงกันว่าอยากให้เปิดสภาสมัยวิสามัญ เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงคิดว่าถ้าจะได้เป็นเจ้าภาพก็จะทำให้ทุกอย่างเกิดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอให้พรรคการเมืองต่างๆ ล่ารายชื่อสมาชิกรัฐสภาเพื่อมาลงชื่อ กว่าจะครบก็เสียเวลา จึงถือว่าเป็นเจตนาดีของรัฐบาลและรัฐบาลก็ได้เสนอชัดเจนว่าเมื่อเปิดสภาแล้ว ก็อยากให้ใช้มาตรา 165 เพื่อนำญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกโดยไม่มีการลงมติ ซึ่งจะช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถนำความเห็นต่างๆ ไปพูดคุยกันได้ และแสวงหาทางออกร่วมกันได้อย่างแท้จริง

“ทั้งหมดเป็นเจตนาดีของรัฐบาลไม่ได้เป็นเจตนาร้ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น เรื่องนี้ผมเป็นคนหนึ่งที่ยืนยันได้เพราะเป็นผู้เสนอเองในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันก็นั่งอยู่ใน ครม. แล้วให้การสนับสนุนด้วย เพียงแต่ขอให้ทุกฝ่ายใช้เหตุใช้ผลในการอภิปรายและจริงใจในการที่จะร่วมกันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ” นายจุรินทร์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image