เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020 ‘ทรัมป์-ไบเดน’ ดีเบตรอบสุดท้าย

เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020 ทรัมป์-ไบเดนžดีเบตรอบสุดท้าย

การหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020 เข้าสู่โค้งสุดท้าย การประชันวิสัยทัศน์รอบสุดท้าย (Debate) ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกันกับโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงพรรคเดโมแครต เข้าขั้นเข้มข้น แตกต่างกับการดีเบตรอบแรกเป็นอันมาก

การดีเบตรอบสุดท้าย (ครั้งที่ 2) โดนัลด์ ทรัมป์มิได้พ่ายแพ้ แต่ได้ประโยชน์ไม่มาก สรุปโดยรวม เขาพยายามโจมตีเรื่อง ฮันเตอร์ ไบเดนŽ บุตรไบเดน รับผลประโยชน์ต่างประเทศ

การดีเบตรอบสุดท้ายห่างจากวันเลือกเพียง 10 วัน จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเบลมอนต์ เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม ตามเวลาสหรัฐ

Advertisement

คริสเทน เวลเกอร์Ž ผู้สื่อข่าว NBC เป็นผู้ดำเนินรายการ

เมื่อเดือนกันยายน ว่ากันว่า อาจเกิด ตุลาเซอร์ไพรส์Ž แต่ก็ไม่มีประเด็นใหม่ให้เซอร์ไพรส์

ดังนั้น ประชาคมโลกจึงหันมาให้ความสนใจกับปัญหาความวุ่นวายอันอาจเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งเหมือนในอดีต อย่างเช่นกรณี

Advertisement

1 ปี 2000 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช พรรครีพับลิกันกับรองประธานาธิบดีอัล กอร์ พรรคเดโมแครต เกิดคดีฟ้องร้องกัน อันเกี่ยวกับคะแนนเลือกตั้ง เพื่อให้ศาลชี้ขาดการแพ้ชนะ

1 ปี 1876 สองพรรคใหญ่ต่างอ้างว่าตนชนะเลือกตั้ง จนเกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญ

เป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรลืม

วิพากษ์กันว่า การดีเบตรอบแรกวุ่นวายที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน ไร้คุณภาพ ทั้ง 2 แย่งกันพูดแย่งกันโจมตี เสมือนกับการทะเลาะเบาะแว้งของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ฉะนั้น การดีเบตครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย จึงได้หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ซ้ำรอย โดยใช้ระบบ ปิดไมโครโฟนŽ ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งพูด ก็ปิดไมโครโฟนของอีกฝ่ายหนึ่งควบคุมสถานการณ์ได้ผล

ตามวาระการดีเบต อันนโยบายต่างประเทศได้บรรจุไว้ในการดีเบตรอบสุดท้าย คณะหาเสียงของทรัมป์จึงได้วางแผนเพื่อโฆษณานโยบายการค้า และนโยบายตะวันออกกลาง

อีกทั้งจะทำการโจมตีบุตรของไบเดน ในการอันรับผลประโยชน์ต่างประเทศ

แต่ปรากฏว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีโอกาสเช่นนั้น

เพราะว่าการดีเบตทั้งรอบส่วนใหญ่โฟกัสไปที่การแก้ปัญหาโรคระบาดไวรัสโคโรนาว่า

ล้าหลัง

กรณีถือเป็น จุดอ่อนŽ ของทรัมป์

ถ้าเป็นกีฬามวย ถือว่า ชกถูกที่สำคัญŽ

ทรัมป์จึงกลายเป็นฝ่ายรับและต้องแก้ต่างตามอัธยาศัยของเขา

ไม่ว่าทรัมป์จะแก้ตัวอย่างไร ก็หนีไม่พ้นความจริง

ความจริงคือ จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นเป็นรายวัน คือกลับไปสู่จำนวนกว่า 6 หมื่นคนต่อวันเหมือนเดิม จึงถือว่า ล้าหลังŽ

แม้ผู้เชี่ยวชาญอนามัยแจ้งเตือนว่า ย่างเข้าฤดูหนาว จำนวนผู้ป่วยติดเชื้ออาจพุ่งสูงขึ้น

แต่ทรัมป์แก้ต่างในการดีเบตว่า เหตุการณ์ระบาดของไวรัสใกล้จะยุติ และปฏิเสธการต่อต้านโรคระบาดไร้ผล ทั้งนี้ โดยปัดความผิดไปให้ประเทศจีน

เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์เคยให้คำมั่นว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดไวรัสโคโรนา สามารถนำออกมาใช้ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

แต่วันนี้ ทรัมป์กลับคำว่า ไม่กล้ารับประกันŽ

สรุป การแก้ปัญหาไวรัสระบาดของทรัมป์คือ เละเทะสิ้นดีŽ

แม้ทรัมป์พยายามปัดความผิดให้จีนก็ตาม

แต่ก็ไม่เห็นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

กรณีจึงรับฟังได้ว่า เป็นการพูดจาเพื่อความสะดวกไปเฉพาะคราวหนึ่งๆ เท่านั้น โดยเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่เขา เป็นคนที่เขาทั้งหลายจะเคารพนับถือได้ยาก

ฉะนั้น ทรัมป์จึงมีเพียงเรื่องเดียวที่เล่นได้คือ

กล่าวหาบุตรของไบเดนรับผลประโยชน์ต่างประเทศ

จึงไม่แปลกที่สื่อฝ่ายขวาได้เสนอข่าวสารอันเกี่ยวกับบุตรไบเดน ในประการที่ทำธุรกรรมด้านการเงินกับนักธุรกิจจีนและรัสเซียอย่างต่อเนื่อง

ส่วนสื่อเสรีได้ถามว่า มีความน่าเชื่อถือขนาดใด

อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวว่า การแก้ปัญหาไวรัสระบาดของทรัมป์คือ ตุลาเซอร์ไพรส์Ž

ฝ่ายอนุรักษนิยมก็เห็นว่าการทำธุรกรรมการเงินของบุตรไบเดนก็คือ ตุลาเซอร์ไพรส์Ž

ย้อนมองปี 2016 ก็เพราะทรัมป์ใช้ประเด็น อีเมล์Ž เป็นวัตถุดิบโจมตี ฮิลลารี คลินตันŽ

จึงพ่ายแพ้หมดรูป

ไบเดนอ่านเกมออกว่าทรัมป์คงใช้ตำราเดิม จึงทำการบ้านมาก่อน โดยตอบปฏิเสธว่าบุตรของตนมิได้รับเงินจากต่างประเทศแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ไบเดนได้กล่าวหาว่าทรัมป์มีบัญชีธนาคารที่ประเทศจีน และยังชำระภาษีที่ประเทศจีนมากกว่าที่สหรัฐ

เป็นเหตุให้ทรัมป์ต้องถอยในประเด็น บุตรไบเดนŽ

สรุป การดีเบตรอบสุดท้าย บรรยากาศกร่อย ไม่ปรากฏฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะเป็นประจักษ์

และคงไม่ให้คุณให้โทษต่อการเลือกตั้งมากนัก

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจประชามติปรากฏว่า

โจ ไบเดน ไม่เพียงได้รับความนิยมจากทั่วประเทศมากกว่าโดนัลด์ ทรัมป์

ว่ากันว่า โจ ไบเดน ยังเป็นต่อในรัฐ Swing states อันได้แก่

ฟิลาเดลเฟีย วิสคอนซิน ฟลอริดา และมิชิแกน

และแม้ที่ปรึกษาการเมืองอาวุโสของพรรครีพับลิกันก็ยอมรับว่า

โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นรองโจ ไบเดน

เวลาที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะพลิกฟื้นสถานการณ์นั้นเหลือเพียงไม่กี่วัน

แต่ต้องไม่ลืมว่า เมื่อ 4 ปีก่อน ฮิลลารี คลินตันŽ พ่ายแพ้ท่ามกลางความนิยมเหนือกว่า และจากการสำรวจประชามติ ใครก็ไม่กล้าตัดประเด็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

หากแต่วันนี้ต่างกับเมื่อวันวานที่ผันผ่าน โดนัลด์ ทรัมป์ มาในมาดนักการเมืองตัวเปล่า

ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์

แต่วันนี้ลงชิงประธานาธิบดีในฐานะป้องกันตำแหน่ง ผู้ใช้สิทธิสามารถใช้วิจารณญาณพิจารณาจากผลงาน และก็เป็นการเพียงพอที่จะสร้างความมหัศจรรย์ตามเวอร์ชั่นเดิม

หลังจากข่าวฉาวบุตรไบเดนรับผลประโยชน์ต่างชาติถูกเปิดเผย มีนักวิเคราะห์ทำการสำรวจพบว่า รัฐ Swing states อันมีรัฐฟลอริดาเป็นอาทิ มีความนิยมทรัมป์เพิ่มขึ้นสูงมาก

ถือเป็นนิมิตอันดี

จากการสำรวจประชามติ ปรากฏว่า ปัจจุบันคนอเมริกันสนใจที่สุดคือ การระบาดของไวรัสโคโรนา ส่วนข่าวบุตรชายไบเดนรับเงินต่างชาติก็ถือเป็นประเด็นร้อน
จึงมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งว่า

ทรัมป์พยายามทำให้ผู้ใช้สิทธิเชื่อใน 2 เด็น

1.การระบาดของไวรัสโคโรนาความผิดเกิดจากประเทศจีน

2.ไบเดนชนะเลือกตั้ง ประเทศจีนได้ประโยชน์

ขมวด 2 เรื่องให้เข้าด้วยกัน และทำการโฆษณาชวนเชื่อประเด็นบุตรไบเดน

เพื่อเบี่ยงเบนความเป็นศัตรูและเกลียดชังที่มีต่อจีนให้กลายเป็นไบเดนแทน

ท่ามกลางภาวะวิกฤตไวรัสระบาด ปรากฏมีอเมริกันชนจำนวนมากทำการลงคะแนนโดยทางไปรษณีย์ จวบจนบัดนี้มีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าเกิน 40 ล้านคน ตัวเลขเท่ากับร้อยละ 30 ของผู้ใช้สิทธิคราวก่อน

เหลือเวลาไม่ถึง 10 วันก็จะมีการเลือกตั้ง เวลายิ่งกระชับเข้ามา โอกาสที่จะสร้าง ตุลาเซอร์ไพรส์Ž ก็ยิ่งลดน้อยลงไป ส่วนทรัมป์จะมีทีเด็ดประการใดหรือไม่ น่าจับตามอง

โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวหาว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์มีการทุจริตร้ายแรง เป็นเหตุให้พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเตรียมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระเบียบการต่างๆ เพื่อต่อสู้คดีอันอาจเกิดขึ้นในข้อกล่าวหาใน Swing states อันเป็นรัฐที่ถือกันว่าสามารถชี้เป็นชี้ตาย

ถ้าหากไบเดนและทรัมป์ไม่สามารถได้ชัยชนะแบบขาดลอย และคะแนนสูสีกัน

น่าเชื่อว่าต้องมีการฟ้องร้องคดีทันที

การที่พรรครีพับลิกันเจตนาแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงแทนตำแหน่งที่ว่างลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้นยิ่งทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัย สงสัยว่าในที่สุดผลการเลือกตั้งก็ต้องให้ผู้พิพากษาศาลสูงที่มีฝ่ายอนุรักษนิยมครองเสียงข้างมาก

ทำการตัดสินชี้ขาด

เฉกเช่นเหตุการณ์เมื่อปี 2000 การนับคะแนนที่ฟลอริดาเกิดการโต้แย้ง

ขณะนั้น อัลกอร์Ž ผู้ท้าชิงพรรคเดโมแครต เพื่อเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

ในที่สุดจึงยอมแพ้

ส่วนทรัมป์จะเจริญรอยตาม จอร์จ ดับเบิลยู. บุชŽ หรือไม่

ต้องใส่เครื่องหมายปรัศนีไว้ก่อน

แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 2 ของสหรัฐบัญญัติการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูง เป็นอำนาจของประธานาธิบดีในการเสนอชื่อ หลังจากนั้น วุฒิสภาทำการพิจารณาและออกคำสั่งแต่งตั้ง

การที่ทรัมป์เสนอแต่งตั้งผู้พิพากษา สาเหตุน่าจะมาจาก

1 ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาได้อย่างสะดวก เพราะรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก

1 ผู้พิพากษาศาลสูงสามารถให้คุณให้โทษเกี่ยวกับความขัดแย้งการนับคะแนนเลือกตั้ง

จึงไม่แปลกที่ทรัมป์เคยกล่าวว่า ผลการตัดสินจะขอพึ่งศาล

นักวิเคราะห์สหรัฐจึงกังวลว่า หากการนับคะแนนเกิดความขัดแย้งในครั้งนี้ เหตุการณ์คงต้องร้ายแรงกว่าปี 2000 และเหตุการณ์แบบปี 1876 อาจเกิดขึ้นโดยพลัน นั่นคือ

วิกฤตรัฐธรรมนูญ

วิกฤตเกิดเพราะทั้ง 2 พรรคใหญ่ต่างไม่ยอมถอย

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตร้อยกว่าปีมาแล้ว

หากการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าจะเหมือนปี 2000 ไม่ว่าจะเหมือนปี 1876

ล้วนเป็นการย้ำรอยประวัติศาสตร์

การหลีกเลี่ยงให้เกิดปัญหาเช่นว่า น่าจะมีอยู่ทางเดียวคือ

โจ ไบเดน ต้องเด็ดขาดไปเลย

ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image