ลุ้นครม.สัญจรภูเก็ต เคาะประกันรายได้ข้าวเปลือก-ยางพารา

ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทําเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในส่วนโครงการประกันรายได้เกษตรกร คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว 3 พืชจากทั้งหมด 5 พืชตามนโยบายรัฐบาล คือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งที่คณะรัฐมนตรีมีมติแล้ว คือ ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คงเหลือข้าวกับยางพารา ซึ่งตนลงนามเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถพิจารณาได้เพราะต้องรอความเห็นจากกระทรวงการคลัง และคาดว่าสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุมครม.สัญจร ที่จ.ภูเก็ต

” ยางพาราขณะนี้ดีขึ้นมาก ล่าสุดราคาที่ตลาดกลาง ยางแผ่นรมควันกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทแล้ว และน้ำยางข้น 70 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ดีเกษตรกรน่าจะพอใจ สาเหตุสำคัญจากความต้องการของตลาดโลกเพิ่มขึ้นและความต้องการของตลาดรถยนต์เริ่มขยายตัวมากขึ้น ทำให้ความต้องการยางรถยนต์เพิ่มขึ้น รวมทั้งสถานการณ์โควิด ทำให้ความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่ม ส่งผลต่อการใช้น้ำยางดิบไปผลิตมากขึ้นตาม รวมถึงผลจากมาตรการของรัฐบาลในการไปเปิดตลาดยางต่างประเทศทำให้มีสัญญาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้กำลังเร่งรัดการส่งมอบ หลายปัจจัยดังกล่าวช่วยทำให้ราคายางในประเทศดีขึ้น ถ้าถึงเวลาหนึ่งเกิดราคาตกลงมารัฐบาลยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางเป็นตัวช่วยประกันรายได้ว่าอย่างน้อย ยางแผ่นดิบมีรายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท เป็นต้น ” นายจุรินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการประกันรายได้สินค้าเกษตรปี2 สำหรับประกันรายได้ข้าวเปลือก โดยนายจุรินทร์ ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรี 21 สิงหาคมที่ผ่านมา วงเงินเตรียมใช้ในโครงการ 23,495 ล้านบาท ส่วนยางพารา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรี 14 กันยายน วงเงิน 28,847 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image