‘คลัง’ เร่งตรวจสอบผู้ทุจริตโครงการ ‘คนละครึ่ง’ หากพบผิดจริง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการคนละครึ่ง ขณะนี้มียอดการใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 3,130 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายของประชาชน 51% ส่วนภาครัฐสนับสนุนส่วนต่างให้อยู่ที่ 41% ขณะที่กรณีการตรวจสอบพบว่า มีร้านค้าที่เข้าข่ายกระทำผิดผ่านระบบธุรกรรมของธนาคารกรุงไทย 2 ร้านค้า ในลักษณะ ลงทะเบียนเป็นร้านค้าเข้าร่วมโครงการ แต่ไม่มีร้านค้าจริงหรือการซื้อขายสินค้าจริงนั้น ความคืบหน้าล่าสุด นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตรวจสอบพติกรรมแล้ว หากพบว่ามีความผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
“ความคืบหน้าตอนนี้ได้ตรวจสอบการทำธุรกรรมของร้านค้าและผู้ใช้เงินทั้งหมด ส่วนจะสามารถเอาผิดได้ในตอนใดนั้น ขณะนี้ต้องรอให้ตำรวจหาหลักฐานให้ครบถ้วน ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จึงไม่สามารถบอกได้ว่าจะเห็นการดำเนินคดีออกมาในช่วงใด แต่เบื้องต้นพบร้านค้ากระทำความผิดในรูปแบบ การทำธุรกรรมไม่ตรงวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งก็ได้สั่งระบบการโอนเงิน เพื่อรอการตรวจสอบให้แน่นอนแล้ว” นายพรชัย กล่าว
นายพรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารกรุงไทย ได้จัดการระงับการใช้งานแอพพลิเคชันถุงเงิน รวมทั้งยึดเงินที่ได้จากรัฐบาลคืน นอกจากนี้ จะพิจารณาดำเนินการลงโทษตามกฎหมายด้วย ส่วนร้านค้าที่เข้าข่ายและกำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นผู้กระทำผิดจริงหรือไม่อีกมากกว่า 10 ราย ทางกระทรวงการคลังไม่ได้นิ่งแน่ใจกับเรื่องนี้ ได้ส่งพนักงานจากกระทรวงเข้าไปช่วยเหลือทางฝ่ายธนาคารกรุงที่เป็นผู้ดูแลระบบ และประสายกับหน่วยงานในพื้นที่แต่ละจังหวัดให้ช่วยตรวจสอบดูแลเรื่องนี้อีกทางด้วย
