แพทย์ชี้โควิด-19 ทำพิษรอบใหม่ ทั่วโลกติดเชื้อ 46 ล้านคน ยุโรปล็อกดาวน์อีกครั้ง

แพทย์ชี้โควิด-19 ทำพิษรอบใหม่ ทั่วโลกติดเชื้อ 46 ล้านคน เบลเยียม-ฝรั่งเศส-อังกฤษ ล็อกดาวน์อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงพบการแพร่ระบาดต่อเนื่องมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 46 ล้านคน ซึ่งแต่ละประเทศได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อที่แตกต่างกันไป

“ที่น่าสนใจ ได้แก่ ประเทศเบลเยียมใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน-วันที่ 13 ธันวาคมนี้ โดยมีมาตรการและข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้น มีการปิดร้านค้าที่ไม่จำเป็นทั้งหมด แต่ยังคงให้บริการรับส่งสินค้าที่บ้านได้” นพ.โสภณกล่าว และว่า ส่วนสหราชอาณาจักรได้มีการพิจารณาที่จะล็อกดาวน์เป็นเวลา 1 เดือนทั่วประเทศ และจะผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ก่อนเทศกาลคริสต์มาส

นพ.โสภณกล่าวอีกว่า ส่วนที่ประเทศฝรั่งเศสมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ ที่จะบังคับใช้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นอย่างน้อย โดยห้ามประชาชนออกจากบ้าน ยกเว้นกรณีการซื้อสินค้าจำเป็น พบแพทย์ หรือ ออกกำลังกาย แต่ต้องไม่เกิน 1 ชั่วโมง ส่วนการออกไปทำงาน จะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่นายจ้างพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ขณะที่ โรงเรียนส่วนใหญ่ยังเปิดทำการสอนตามปกติ นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า ในช่วงเย็นของก่อนวันล็อกดาวน์ ประชาชนในกรุงปารีสได้เดินทางออกนอกเมืองเพื่อไปล็อกดาวน์อยู่ในชนบท จนส่งผลให้รถติดยาวสะสมเป็นระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร

Advertisement

“สำหรับประเทศไทยยังคงควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ดี แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือ การรักษามาตรการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนการ์ดไม่ตก หากเข้าใช้บริการยังสถานที่ต่างๆ ให้ลงทะเบียนเข้า-ออก ผ่านแอพพลิเคชั่น ไทยชนะ ทุกครั้ง เพราะเมื่อพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงเข้าสู่ระบบ” นพ.โสภณกล่าว

นอกจากนี้ นพ.โสภณกล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยสภาพอากาศเปลี่ยนเนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ป่วยด้วยโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ได้ง่าย ซึ่งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 มักมีอาการคล้ายคลึงกัน ติดต่อผ่านการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย จากการไอ จาม อย่างไรก็ตาม สามารถป้องกันได้ด้วยการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง กินของร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด หลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสบริเวณใบหน้า ขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยของตนเองและคนใกล้ชิดเสมอ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หรืออาการระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ให้รีบพบแพทย์ใกล้บ้านทันที พร้อมแจ้งประวัติเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาและเฝ้าระวังอาการต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image