จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 หลังจากนำเงินงบประมาณของทางราชการกว่า 40 ล้านบาท โอนผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS เข้าบัญชีส่วนตัว และ พบการกระทำความผิด 165 ครั้ง โดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่านำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม มีคำสั่งปล่อยตัว น.ส.ขนิษฐา หอยทอง เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาเนื่องจากครบกำหนดควบคุมตัวภายใน 84 วันเนื่องจากพนักงานอัยการยังมิได้ยื่นฟ้องตามกำหนด
ความคืบหน้า วันที่ 8 พฤศจิกายน แหล่งข่าวระดับสูงจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ขณะนี้ ผบก.ภ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เร่งรัดให้ทีมพนักงานสอบสวนเร่งสรุปสำนวนตามที่พนักงานอัยการขอให้สอบเพิ่ม เพื่อนำผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.ขนิษฐา ,นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม และ นางประชิด วงศ์ประภารรัตน์ หัวหน้างานการเงิน สำนักงานจังหวัด ส่งพนักงานอัยการฟ้องต่อสาลซึ่ง คาดว่าจะใช้เวลาสรุปอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะสามารถสรุปสำนวนและนำผู้ต้องหา ไปส่งฟ้องได้ทั้งหมด
โดยมีรายงานข่าวระบุว่า หลังจาก นายกิตติพงษ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้สรุปรายงานผลการสอบสวน โดยสรุปว่าผู้เกี่ยวประมาทเลินเล่อ เข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงมีโทษไล่ออก จากนั้นได้ส่งให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการจากสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อสอบวินัยร้ายแรง หัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าการเงินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกหลายราย ตามเอกสารหลักฐานที่ปรากฎ รวมทั้งสอบทางละเมิด เพื่อรับผิดชอบด้วยการชดใช้ความเสียหายให้ทางราชการ ล่าสุดกระทรวงมหาดไทย ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด หลังพบการทุจริตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563