นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่กขค.ได้มีมติอนุญาตการควบรวมธุรกิจระหว่างกลุ่มซีพีและบริษัท เทสโก้ สโตร์ส(ประเทศไทย) นั้น เจ้าหน้าที่ของซีพีได้เดินทางมารับเอกสารผลการพิจารณาของกขค.แล้วเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากกลุ่มซีพีไม่เห็นด้วยกับมติหรือคำสั่งของกขค.ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตาม สามารถยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง โต้แย้งมติของกขค.ได้ภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ส่วนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกขค.แต่ละคนที่วินิจฉัยอนุญาตหรือไม่อนุญาตกรณีซีพีควบรวมเทสโก้ โลตัส ทั้งในปัญหา ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย คาดว่าจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยในอีก 2 สัปดาห์ เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะต่อไป
นายสกนธ์ กล่าวถึงในวันที่ 11 พฤศจิกายน จะมีการแถลงชี้แจงข้อกังวลต่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับมติของกขค.เสียงข้างน้อย นั้น เป็นความเห็นต่างของกรรมการเสียงข้างน้อย โดยพิจารณาทั้งข้อกฎหมายต่างๆข้อดี ข้อเสีย ของการควบรวมธุรกิจ แม้การควบรวมธุรกิจ ถือเป็นเรื่องปกติของการประกอบธุรกิจ แต่การรวมธุรกิจบางครั้ง ก็ทำให้โครงสร้างธุรกิจของประเทศเปลี่ยนแปลงไปจำต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ด้านนายสันติชัย สารถวัลแพศย์ โฆษกคณะกรรมการการการแข่งขันทางการค้า ในฐานะกรรมการเสียงข้างน้อย กล่าวว่า ต้องการชี้แจงข้อมูล ข้อกฎหมายต่างๆที่นำมาพิจารณา ว่า มีความเห็นเป็นอย่างไร สิ่งที่กรรมการเสียงข้างน้อยวินิจฉัยนั้นมีหลักการ และเหตุผลอย่างไร ทำไมไม่อนุญาตให้มีการควบรวมกิจการ วิธีการพิจารณา และผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจาการควบรวม ไม่ใช่เป็นการคัดค้านมติเสียงข้างมากของกขค. ซึ่งหลัง กขค.มีมติไปแล้ว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามว่าทำไมกขค.จึงอนุญาต
“เราไม่อยากให้สังคมเกิดความแตกแยกจึงต้องการชี้แจงให้สังคมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ส่วนรายละเอียดต่างๆนั้นขอให้ไปฟังในวันที่ 11 พ.ย.นี้”นายสันติชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวที่จะเกิดขึ้นนั้น ผลจากที่ประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563โดยกรรมการเสียงข้างมาก มีมติอนุญาตให้บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด หรือ เทศโก้ โลตัส ควบรวมกิจการได้แบบมีเงื่อนไข โดยเห็นว่า‘ไม่เป็นการผูกขาด’ แม้จะมีอำนาจตลาดเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง และไม่กระทบต่อประโยชน์ของผู้บริโภคโดยรวม ซึ่งการอนุญาตนี้ได้กำหนดเงื่อนไข7 ข้อที่ต้องปฏิบัติตามภายหลังการควบรวมกิจการ
