TITLE ประเมินโค้งสุดท้ายปีนี้สัญญาณดี อานิสงส์มาตรการรัฐกระตุ้นอุตฯท่องเที่ยว-อสังหาฯ พร้อมเปิดโครงการมูลค่า 1 หมื่นล้านรอขาย

นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือTITLE เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยยังคงควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ขณะเดียวกันเริ่มมีบางประเทศสามารถผลิตวัคซีนได้ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดในอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ขณะเดียวกันในไทย เมื่อภาครัฐได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และเพิ่มความสนใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น บริษัทฯจึงคาดว่าน่าจะได้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์จากชาวต่างชาติได้ในเร็วๆนี้ โดยบริษัทฯมีโครงการพร้อมขาย และรอเปิดการขาย มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท

“ถ้าหากรัฐบาลเริ่มเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าไทยได้ ก็จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นผลดีกับ TITLE เนื่องจากมีลูกค้าต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ขณะเดียวกันบริษัทฯได้มีการเตรียมความพร้อมการเปิดขายโครงการต่างๆมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับดีมานด์ที่จะเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญช่วยสนับสนุนการเทิร์นอะราวด์ได้อย่างแน่นอน” นายศศิพงษ์กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส3/2563 ว่าบริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 8.81 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 16.75 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนมีรายได้รวมอยู่ที่ 84.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 36.20 ล้านบาท โดยผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อการท่องเที่ยวของไทยที่ทำให้ชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาทำธุรกรรมในประเทศไทยได้จากมาตรการล็อกดาวน์ แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มมีทิศทางดีขึ้น ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าติดตามสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลและกำหนดแนวทางการบริหารจัดการในการเปิดตัวโครงการได้อย่างเหมาะสม

Advertisement

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯคาดว่าการดำเนินการก่อสร้างโครงการThe Title Rawai Phase 5 (The Title V) มูลค่าโครงการโดยประมาณ 1,100 ล้านบาท น่าจะทำให้แล้วเสร็จในไตรมาส 4 ของปีนี้ เพื่อรองรับการโอนกรรมสิทธิ์หากสถานการณ์ต่างๆคลี่คลาย รวมทั้งอยู่ระหว่างพิจารณาเปิดการขายโครงการ The Title Naiyang Phase 3 (Halo 1) มูลค่าโครงการ ประมาณ 1,640 ล้านบาท เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image