รายงานข่าวจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานราก กรมฯจึง จัดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางตลาดและเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้าและบริการในตลาดต้องชมและหมู่บ้านทำมาค้าขายในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยกำหนดจัดกิจกรรมที่ตลาดต้องชม หมู่บ้านทำมาค้าขาย และตลาดริมทาง ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน โดยในกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมกระตุ้นการจำหน่ายสินค้าและบริการ ณ ตลาดต้องชม 2 แห่ง ที่ตลาดน้ำวัดพระยาสุเรนทร์ วันที่ 21-22 พฤศจิกายน และ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม วันที่ 28-29 พฤศจิกายน ภายใต้ชื่องาน ชิม ช้อป แชะ แวะตลาดต้องชม กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ การส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าชุมชน การWorkshop ผลิตภัณฑ์ชุมชน และกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลพิเศษ
รายงานระบุต่อว่า ในส่วนภูมิภาค จัดกิจกรรมกระตุ้นการจำหน่ายสินค้า ณ ตลาดชุมชนในความส่งเสริมของกรม เช่น ตลาดต้องชม หมู่บ้านทำมาค้าขาย และตลาดริมทาง กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน การส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าชุมชน การWorkshop ผลิตภัณฑ์ชุมชน และกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลพิเศษโดยเดือนพฤศจิกายนนี้ จัดงานที่ตลาด 14 แห่ง ใน 12 จังหวัด ได้แก่ ภาคกลาง อาทิ ตลาดน้ำท่าคา จ.สมุทรสงคราม วันที่ 20-22 พฤศจิกายน ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน จ.สิงห์บุรี วันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน ตลาดอิงน้ำสามโคก จ.ปทุมธานี วันที่ 21 – 22 พฤศจิกายน ตลาดย้อนยุคเมืองสรรค์ จ.ชัยนาท วันที่ 21-22 พฤศจิกายน
ภาคเหนือ อาทิ ตลาดมอกล้วยไข่ จ.กำแพงเพชร วันที่ 19-22 พฤศจิกายน ตลาดหัตถกรรมผ้าทอแม่สารบ้านตอง จ.ลำพูน วันที่ 19-22 พฤศจิกายน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ถนนคนเดินสาเกตนคร จ.ร้อยเอ็ด วันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน ตลาดต้องชมย่านเมืองเก่าสกลถนนผ้าคราม จ.สกลนคร วันที่ 28-29 พฤศจิกายน ตลาดปลาสินเจริญ จ.อุดรธานี วันที่ 28 – 29 พฤศจิกายน และภาคใต้ อาทิ ตลาดถนนคนเดินย่านสถานี วันที่ 20 พฤศจิกายน
รายงานระบุต่อว่า จากนั้นช่วงวันหยุดยาวเดือนธันวาคม 2563 กรมการค้าภายใน เตรียมจัดกิจกรรมเช่นเดียวกัน ในกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง ได้แก่ ที่ ตลาดพลู วันที่ 5-6 ธันวาคม 2563 และตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน วันที่ 12-13 ธันวาคม 2563 และในส่วนภูมิภาค 62 แห่ง คาดว่าการจัดกิจกรรมต่างๆ จะช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน เกิดการหมุนเวียนทางระบบเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างเงินสะพัดกว่าพันล้านบาท