น.ส.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยว่า ในเดือนม.ค.64 กบข.จะมีการทบทวนกรอบการลงทุนระยะยาว 5-10 ปี ซึ่งเป็นการปรับกรอบลงทุนครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากมีผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลง จึงมีความจำเป็นต้องปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์มากที่สุด โดยคาดจะได้ข้อสรุปในเดือนมิ.ย.ต่อไป
“ในช่วงที่เกิดโควิด-19 กบข.ได้ปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นลงเหลือ 10% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมด และลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 70% และปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ เริ่มกลับมาดีขึ้น เห็นได้จากกระแสการเกิดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้กบข.ปรับเพิ่มการลงทุนในหุ้นมาอยู่ที่ 15.6% และปรับลดลงทุนในตราสารหนี้เหลือ 65% ซึ่งหลังจากนี้ไป การลงทุนต่างๆ จะต้องอยู่ในกรอบการลงทุนระยะยาวที่ได้ทำการวิเคราะห์ไว้”
น.ส.ศรีกัญญา กล่าวว่า สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุน กบข.ในปี 63 ยังคงเป็นบวกได้ แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพราะกบข.วางแผนปรับพอร์ตการลงทุนได้เร็ว และเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เช่น ทองคำ ทองแดงมากขึ้น ส่วนปีหน้าเชื่อว่า กบข.จะยังสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ต่อจากปีนี้ แต่ยังคงให้ความสำคัญการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน และอาเซียน ที่ยังให้ผลตอบแทนดีอยู่ แต่กบข.จะตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลเรื่องการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศให้มากที่สุด
“เราได้รับอนุมัติขยายกรอบการลงทุนในต่างประเทศได้ถึง 40% ซึ่งปัจจุบันเราลงทุนอยู่ที่ 33% ฉะนั้นปีหน้า เราจะขยายขึ้นไปให้ใกล้เคียงกรอบที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งเราให้ความสนใจในตลาดในประเทศฝั่งตะวันออกมากกว่าตลาดในประเทศตะวันตก โดยปัจจุบัน กบข.มีพอร์ตการลงทุนรวมอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นพอร์ตลงทุนของสมาชิก 4 แสนล้านบาท และพอร์ตลงทุนของกองทุนสำรองฯ อีก 6 แสนล้านบาท โดยมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 1.1 ล้านคน”น.ส.ศรีกัญญา กล่าว
