จันทร์ 23 พ.ย.นี้ ป.ป.ส. เตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษคดีจับกุมยาเคตามีนล็อตประวัติศาสตร์ เตรียมส่งออกไปไต้หวัน

วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 หมู่ 3 ตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี วิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กัญญนันท์ คงภัสนิธิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมชี้แจงผลการตราจสอบสารเคมีจากการจับกุมยาเคตามีนจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 466 กระสอบ น้ำหนัก 11.5 ตัน มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ในโกดังสินค้าในพื้นที่อำเภอบางปะกงฉะเชิงเทรา เบื้องต้น 60 กระสอบที่ตรวจพบเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟตใช้ในการซุกซ่อนสารเสพติดส่งออกนอกประเทศ

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทางไต้หวันว่ามีการจับกุมสารเคมี พร้อมเคตามีนจำนวน 300 กิโลกรัม จึงมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวอย่างไม่เป็นทางการ โดยมีการทำหนังสือมาถึงไทยเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาถึงผลการสอบสวนตามหลักฐานต่างๆ ฝ่ายไทยจึงเริ่มสืบสวนเรื่องของการส่งออกจนพบโกดังสินค้าในพื้นที่อำเภอบางปะกงฉะเชิงเทรา โดยผลทดสอบเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมาพบว่าตรงกับข้อมูลทางไต้หวันที่ระบุว่ามีสารแคลเซียมคาร์บอเนตจากประเทศไทย จำนวน 16 เมตริกตัน และภายในจำนวนนี้ได้มีการซุกซ่อนเคตามีนจำนวน 300 กิโลกรัม และอีกจำนวนได้นำเข้าโซเดียมฟอสเฟต 19.95 เมตริกตัน และเจอยาเสพติดระดับ 4 ของประเทศเขาอีก 200 กิโลกรัม

จากการสืบสวนพบว่า การนำเข้าไปไต้หวันเป็นล็อตเดียวกับโกดังแห่งนี้ ภายในโกดังมีสินค้าจำนวน 466 กระสอบ กระสอบละ 25 กิโลกรัม ซึ่งมีกระสอบที่แกะไว้จำนวน 60 กระสอบ จากการทดสอบเบื้องต้นปรากฏว่ามีสีม่วง หลังจากนั้นได้นำไปทดสอบภายในห้องแลปอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะเชิญหน่วยงานต่างๆเข้ามาตรวจสอบร่วมกัน

นายวิชัย กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดี สามารถดำเนินคดีได้เลยเนื่องจากพบสารเคตามีนเบื้องต้นที่จับได้อยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเป็นการดำเนินคดีระหว่างประเทศ โดยอำนาจในการสอบสวนทางกฎหมายจะเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ซึ่งวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ป.ป.ส.จะร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนของ บช.ปส จากนั้นจะรับเรื่องไว้ โดยบช.ปส.จะทำเรื่องถึงอัยการสูงสุดเพราะเป็นคดีระหว่างประเทศ ซึ่งอัยการสูงสุดจะมอบหมายให้อัยการร่วมกับตำรวจพนักงานสอบสวน ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนต่อ ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ จะมีความยุ่งยากกว่าความผิดภายในประเทศ และมีการรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์ โดยมาตรการของรัฐบาลมุ่งให้ทำลายเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลัง เป็นการขยายผลและตรวจยึดทรัพย์สิน

Advertisement

นางสาวกัญญนันท์ คงภัสนิธิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวว่า ในการตรวจสอบของต้องสงสัยจำนวน 60 กระสอบ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบสารไตรโซเดียมฟอสเฟต เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ใช้ในอุตสาหกรรมนมจะทำให้นมไม่ตกตะกอน ซึ่งตรวจพบว่าใช้มาเป็นตัวอำพรางซุกซ่อนยาเสพติด และอีก 400 กว่ากระสอบจะทำการตรวจสอบ อาจจะไม่พบสารเสพติดเลย หรือเป็นการเตรียมเพื่อจะใช้ซุกซ่อนสารเสพติดในล็อตต่อไปก็เป็นได้ ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกจะเหมือนเคตามีน แต่เมื่อตรวจแล้วพบว่าเป็นไตรโซเดียมฟอสเฟต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image