เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมกรณีผู้ชุมนุมจะเดินทางไปสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ วันที่ 25 พฤศจิกายน ว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นเขตพระราชฐาน หากมีการข่าวว่าอาจเกิดอันตรายทำให้ทรัพย์สินเสียหายก็ต้องออกข้อกำหนด ซึ่งกฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะให้อำนาจไว้เท่าไหร่ก็ทำตามนั้น สำหรับรายละเอียดทางทีมโฆษก บช.น. จะแถลงให้ทราบอีกครั้ง ยืนยันว่าแม้แกนนำจะประกาศยกระดับการชุมนุม ทางตำรวจก็ไม่กังวลอะไร เพราะตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับผู้ชุมนุม จริงๆคนจะมากหรือน้อยมันขึ้นอยู่กับว่าเขาชุมนุมโดยสงบหรือไม่
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า ทางผู้จัดกิจกรรมยังไม่ได้แจ้งการชุมนุม มีเพียงการประกาศทางโซเชียลมีเดียก็ขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตาม พร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับการวางกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยต้องให้ได้สัดส่วนตามสถานการณ์ พร้อมระบุว่าหากมีความรุนแรงไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่แน่นอน
ทั้งนี้หากมีผู้ชุมนุมสองกลุ่มเข้าไปในพื้นที่พร้อมกัน ก็จะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ส่วนเหตุการณ์วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตำรวจไม่ได้ปล่อยปะละเลย ซึ่งตำรวจขับรถ ตชด. ไปขวาง ทำให้รถของ ตชด. มีรอยกระสุนหลายรอย ตำรวจพยายามป้องกัน แต่การควบคุมฝูงชนที่ผ่านมาตำรวจไม่มีอาวุธทางผู้บังคับบัญชากำชับมาไม่ให้ใช้อาวุธ
สำหรับภาพรวมการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมนับตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมเฉพาะในกรุงเทพฯ จำนวน 107 คดี ส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว 24 คดี อาทิตย์นี้จะส่งอีก 9 คดี ก็ดำเนินการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล รวบรวมพยานหลักฐานไปเรื่อยๆ ไม่ได้ละทิ้งอะไร ส่วนเรื่องการออกหมายเรียกหรือหมายจับ แกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 17 และ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ
