เซ็นทรัลพัฒนา โชว์กำไร9เดือนกว่า7.5 พันล้านบาท ปีหน้าเปิดเพิ่ม2แห่ง

นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต, และเซ็นทรัล วิลเลจ กล่าวว่า ปี 2563 บริษัทปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 รวมบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 3 /2563 มีรายได้ 7,599 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท และมีการฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2563

ขณะที่ภาพรวมงวด 9 เดือนของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 23,753 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 7,540 ล้านบาท โดย เซ็นทรัลพัฒนา บริหารจัดการศูนย์การค้า 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร ในไทยและมาเลเซีย โครงการที่พักอาศัย 15 โครงการ และเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่

โดยโครงการมิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และเซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา กำหนดเปิดปี 2564 เซ็นทรัลพลาซา จันทบุรี กำหนดเปิดปี 2565 และโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค บนทำเลทองซุปเปอร์คอร์ ซีบีดี ในกรุงเทพฯ ทยอยเปิดให้บริการปี 2566-67

นายปรีชา กล่าวว่า จากความสำเร็จและมุ่งมั่นของเซ็นทรัลพัฒนาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีศูนย์การค้า 34 แห่งในไทยและต่างประเทศ โดยยังคงความเป็นผู้นำในการพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้กับสังคมไทย และขยายธุรกิจหลากหลายโครงการช่วยสร้างอาชีพ สร้างโอกาส ให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศ จึงทำให้ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืน ดาวน์โจนส์ DJSI ให้เซ็นทรัลพัฒนา เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนียั่งยืนระดับโลก DJSI World 2020

Advertisement

ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจทำให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ ช่วยให้เกิดการจ้างงาน การสร้างรายได้ในท้องถิ่น การส่งเสริมเอสเอ็มอีท้องถิ่น และการพัฒนาผู้ประกอบรายย่อย รวมถึงโครงการต่างๆ ที่กระตุ้นเศรษฐกิจระดับประเทศ 2.ด้านสังคม ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสร้างมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชน สร้างพื้นที่พบปะและสันทนาการ รวมถึงจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของชุมชน และ3.ด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างความยั่งยืนภายใต้โครงการ Journey to Zero เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษ โดยส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้โซลาร์เซลล์ในศูนย์การค้า, การใช้น้ำรีไซเคิล, การจัดการขยะอย่างถูกวิธี เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image