จัสติน ทิมเบอร์เลก มอบรถตู้วีลแชร์แบบลิฟต์ให้ชายพิการทางสมอง เป็น ของขวัญ

(เครดิตภาพจากเอพี และ Michael Abbott Jr.@mykabit )

จัสติน ทิมเบอร์เลก มอบรถตู้วีลแชร์แบบลิฟต์ให้ชายพิการทางสมอง เป็น ของขวัญ

เว็บยาฮู รายงาน จัสติน ทิมเบอร์เลก นักร้องชื่อดังชาวอเมริกันวัย 39 ปี ทำให้พ่อลูกคู่หนึ่งมีความสุขที่สุด เมื่อได้รับ “รถตู้วีลแชร์แบบลิฟต์รถตู้วีลแชร์แบบลิฟ”จากจัสตินเป็นของขวัญเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ข่าวว่า เจค สติท ชายหนุ่มวัย 17 ปีชาวเมืองมอร์ริสทาวน์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ป่วยพิการทางสมอง และอยากได้รถตู้วีลแชร์แบบลิฟต์เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิต หลังจาก ทิม สติท พ่อของเจค มีอาการบาดเจ็บที่หลัง และเริ่มอุ้ม เคลื่อนย้ายลูกชายขึ้นรถไม่ไหว สองพ่อลูกจึงออกมาระดมทุน หาเงินบริจาคเพื่อจะนำไปซื้อรถตู้วีลแชร์แบบลิฟต์ให้ได้ก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ซึ่งได้เงินมากว่า 35,000 ดอลลาร์ ราว 1.085,000 บาท แต่จัสติน บังเอิญเห็นข่าวของสองพ่อลูก และรู้สึกสะเทือนใจ จึงตัดสินใจซื้อรถตู้วีลแชร์แบบลิฟต์มอบให้สองพ่อลูกเป็นของขวัญ

(เครดิตภาพจาก Michael Abbott Jr.@mykabit )

ทั้งนี้จัสติน วิดีโอคอลผ่านซูม พูดคุยกับเจคและทิมว่า “ผมรู้สึกดีใจ เหมือนที่ผมบอก ผมได้ยินความตั้งใจของพวกคุณที่อยากได้รถตู้ก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ผมจึงอยากให้คุณได้รถตู้คันนี้ ผมจะออกเงินให้ทั้งหมด ผมอยากให้คุณมีวันหยุดที่สุดวิเศษ คุณสร้างแรงบันดาลใจให้ผมนะเจค ”

(เครดิตภาพจาก Michael Abbott Jr.@mykabit )

ไมเคิล แอ็บบอท จูเนียร์ หนึ่งในผู้ช่วยระดมทุน หาเงินซื้อรถตู้ให้เจค ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ WJHL ว่า “เจคเป็นเด็กหนุ่มที่น่าทึ่ง เขาชอบนั่งอยู่หน้าบ้าน และมีป้ายเขียนว่า ” บีบแตรรถ หากคุณมีความสุข ” ซึ่งไมเคิล เล่าว่านี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ จัสติน ทิมเบอร์เลก ประทับใจและตัดสินใจซื้อรถตู้มอบให้สองพ่อลูก โดยนักร้องคนดัง ซึ่งเป็นชาวรัฐเทนเนสซีเช่นกันบอกกับพ่อลูกระหว่างพูดคุยกันผ่านซูมว่า “จงบีบแตรรถถ้าหากคุณมีความสุข ขอให้คุณทำต่อไปเรื่อยๆนะ และตอนนี้คุณสามารถขับรถตู้คันนี้บีบแตรไปทั่วเมือง ”

Advertisement
(เครดิตภาพจาก Michael Abbott Jr.@mykabit )

ทิม ทหารผ่านศึกให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ WJHL ว่า หลังจากต้องอุ้มลูกชายขึ้นรถตู้เป็นประจำ ทำให้หลังของเขาผิดรูป กระทั่งตัวเขาเองก็เคลื่อนไหวลำบาก การได้รถตู้วีลแชร์แบบลิฟต์จึง “ช่วยให้เจคใช้ชีวิตง่ายขึ้นมาก รวมทั้งชีวิตของผมด้วย เพราะมีคนไม่มากที่สามารถอุ้มเจคขึ้นรถ และจัดท่านั่งให้เขานั่งได้ถนัดตามที่เขาต้องการ มันช่วยทำให้ชีวิตของเราทั้งคู่ง่ายขึ้นมาก และยังทำให้เจคสามารถใช้ชีวิตได้อิสระในฐานะคนหนุ่ม ”

สำหรับเงินบริจาคที่ได้มาแล้วกว่า 35,000 ดอลลาร์ ราว 1,085,000 บาท จะถูกเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลของเจคต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image