‘ก้าวหน้า’ โต้ กกต.งัดมุขเก่าสกัด กลัวคว้าชัย อบจ. ลั่นหยุดเปลี่ยนแปลง 42 จว.ไม่ได้

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่อาคารไทยซัมมิท น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีคณะก้าวหน้ามีการกระทำเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 111 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราโดนใช้คดีความข่มขู่และปิดปาก ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของคณะก้าวหน้า นั่นหมายความว่ารัฐบาลกำลังประเมินว่าคณะก้าวหน้าประสบความสำเร็จในการทำงานทางการเมือง และเห็นว่าเรามีโอกาสสูงที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่น จึงใช้มุขเก่าๆ ทำให้มีประสิทธิภาพหาเสียงช้าลง แต่เรื่องนี้ไม่สามารถหยุดยั้งการหาเสียงของเราได้ทั้ง 42 จังหวัด และเชื่อมั่นว่าในประชาชนใน 42 จังหวัดต้องการความเปลี่ยนแปลง กกต.ควรจะมาขอบคุณเรา ที่ทำให้ประชาชนตื่นตัวในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ เพราะเห็นแค่ กกต.ทำงานขึ้นป้ายตามสถานที่ต่างๆ เราก็ยังไม่เห็นงานอื่น

เมื่อถามต่อว่าผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นมีความเป็นกังวลว่าคณะก้าวหน้าสามารถช่วยหาเสียงได้หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ยืนยันกับผู้สมัครของเราทุกคนว่าเราทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกยังอยู่คงอยู่ทุกประการ เราทุกคนขึ้นทะเบียนในการช่วยหาเสียงผู้สมัครทุกคน เพราฉะนั้นทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของกฎหมาย สุดท้ายหาก กกต.จะเอาผิดเราจริงๆ ก็อยากทราบว่าจะเอาข้อกฎหมายใดมาเอาผิด การเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง กลุ่มต่างๆ ก็สามารถส่งผู้สมัครลงได้เช่นเดียวกับคณะก้าวหน้า ประชาชนทุกคนสามารถที่จะรวมกลุ่มและขับเคลื่อนทางสังคมได้ ซึ่งต้องถามทาง กกต.ว่า คณะก้าวหน้ามีการกระทำอะไรที่เหมือนพรรคการเมือง

เมื่อถามว่าในวันที่ 2 ธันวาคม ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พักอาศัยบ้านหลวง คาดว่าการตัดสินคดีเป็นอย่างไร น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า หากประเทศไทยยังมีนิติรัฐและนิติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ควรจะต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่มั่นใจว่าประเทศนี้ปกครองด้วยระบบนิติรัฐ นิติธรรม อย่างไรก็ตามการพ้นตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีมากนัก เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้เพียงแต่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แต่เรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน

เมื่อถามว่าหากผลคำวินิจฉัยตัดสินไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งนายกฯ คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เป็นไปได้สูงว่าความไม่พอใจของประชาชนจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ พล.อ.ประยุทธ์ตกจากเก้าอี้ แต่นี่จะเป็นอีกครั้งที่หลักนิติรัฐไม่สามารถใช้การได้ และจะทำให้ประชาชนหมดศรัทธาในสถาบันหลักของประเทศ อย่าให้ประชาชนหมดศรัทธาสถาบันอันเป็นหนึ่งของในอำนาจหลักของประเทศเลย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image