แม่น้ำโก-ลก สูงกว่าตลิ่ง 1.12 เมตร แต่ปธ.ชุมชนยืนยันทุกครัวเรือนปรับตัวรับสถานการณ์และยังใช้ชีวิตตามปกติ
แม้ฝนหยุดตกแล้ว แต่มวลน้ำที่ไหลจากคลองบูเก๊ะตา อำเภอแว้งยังไหลมาสมทบในแม่น้ำโก-ลกในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทำให้ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง1.12 เมตร ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก จำนวน 10 ชุมชน 415ครัวเรือน รวม1,245 คนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
นส.โนรีซา มะแซ ประธานชุมชนหัวสะพานกล่าวว่า ระดับน้ำที่ท่วมสูงไม่ได้กระทบกับวิถีชีวิตประชาชนมากนัก เพราะเมื่อไม่สามารถเดินทางเข้าออกจากชุมชนโดยรถได้ ก็เปลี่ยนมาสัญจรทางเรือ ซึ่งสามารถขึ้นฝั่งได้จากบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซียบริเวณด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งประชาชนในชุมชนยังเดินทางเข้าออกจากบ้านพักไปซื้อของกลับมาใช้อุปโภคบริโภคตามปกติ ส่วนความช่วยเหลือจากภาครัฐตนมองว่าสถานการณ์ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกจึงยังไม่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือในห้วงนี้ และในช่วงน้ำท่วมเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกได้คอยติดตามประสานงานโดยไม่ทอดทิ้งอยู่แล้วจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ด้านนส.ซูไฮดา บินตาเละ ประธานชุมชนท่าประปากล่าวว่า ประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเกิดน้ำท่วมจนคุ้นชิน และสามารถปรับตัวรับสถานการณ์ได้ เมื่อเข้าสู่หน้าฝนก็เก็บของขึ้นที่สูง หลังผ่านเดือนมกราคมไปแล้วก็นำของลงมาแล้วใช้ชีวิตปกติ ช่วงน้ำท่วมเปลี่ยนจากรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มาเป็นเรือ ทำให้ช่วงน้ำท่วมประชาชนไม่ได้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก อีกทั้งส่วนใหญ่น้ำท่วมเป็นช่วงๆแต่ละครั้งก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งทุกคนพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมอยู่แล้ว
นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทุกครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบมีการปรับตัวรับสถานการณ์อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการสำรวจครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบเพื่อเตรียมการมอบถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบ อีกทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังปัญหาจากประธานชุมชนและครัวเรือนที่ประสบภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้ขอบคุณประธานชุมชนและคณะกรรมการชุมชนทุกชุมชนที่อุทิศเวลาเข้าดูแลช่วยเหลือคนในชุมชนในช่วงเกิดน้ำท่วมอย่างเต็มที่
