สหรัฐเริ่มต้นกระจายวัคซีนทั่วประเทศ14ธันวาคม
เอเอฟพีรายงานว่า พลเอก กัส เพอร์นา ผู้อำนวยการปฏิบัติการลำเลียงวัคซีน ตามแผนปฏิบัติการ “โอเปอเรชัน วาร์ป สปีด” ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมนี้ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ที่ผ่านความเห็นชอบให้ใช้เป็นการฉุกเฉินจาก องค์การอาหารและยา (เอฟดีเอ) กำหนดจะลำเลียงถึงโรงพยาบาลและศูนย์กระจายวัคซีนหลายร้อยแห่งทั่วประเทศในเช้าวันที่ 14 ธันวาคมนี้ และพร้อมที่จะเริ่มฉีดให้กับบุคคลกลุ่มเสี่ยงสูงสุดได้ทันที
พลเอกเพอร์นา ระบุว่า การลำเลียงจะเริ่มต้นในวันที่ 13 ธันวาคมและเริ่มถึงโรงพยาบาลกับศูนย์กระจายวัคซีนตั้งแต่วันที่ 14 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม โดยระลอกแรกสุดจะมีจำนวนวัคซีนเพียงพอสำหรับรองรับคนจำนวนราว 3 ล้านคน โดยที่รัฐบาลกลางแนะนำให้ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำสถานดูแลคนชรา เป็นลำดับแรก อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในทางปฏิบัติจะขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละรัฐว่าจะลำดับความสำคัญต่างๆ อย่างไร
ในคำแนะนำของเอฟดีเอ ระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้ที่มีประวัติมีอาการแพ้รุนแรง ยังไม่ควรได้รับวัคซีนในเวลานี้ หลังจากเกิดกรณีที่มีผู้รับวัคซีนชาวอังกฤษ 2 รายมีอาการแพ้รุนแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม คำแนะนำของ เอฟดีเอ ยังไม่ระบุถึงสตรีมีครรภ์ หรือกลุ่มคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ว่าควรได้รับวัคซีนหรือไม่ โดยข้อให้ปรึกษากับแพทย์เป็นการเฉพาะ
ทั้งนี้ นายปีเตอร์ มาร์กส์ นักวิทยาศาสตร์ของเอฟดีเอ ระบุว่า กลุ่มสตรีมีครรภ์ ไม่ได้รวมอยู่ในการทดลองระยะที่ 3 ของไฟเซอร์ด้วย ทำให้ เอฟดีเอ ไม่มีข้อมูลพอที่จะแถลงให้ชัดเจนในกรณีนี้ และจำเป็นต้องปล่อยให้อยู่ในการพิจารณาของแพทย์เป็นรายๆ ไป
