‘ไบรท์ ชินวัตร’ เอาจริง บุกสภ.เมืองนนทบุรี แจ้งความ ‘หมอวรงค์’ ยุยงปลุกปลั่น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เดินทางมาแจ้งความ ร.ต.ท.กฤช รัตนรณชาติ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ให้ดำเนินคดี นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ข้อหายุยงปลุกปั่นให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามม. 116 โดยพนักงานสอบสวน สอบปากคำนายชินวัตรกว่า 30 นาที จากนั้นให้ลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความไว้
ร.ต.ท.กฤชกล่าวว่า ได้รับเรื่องแจ้งความไว้แล้วตามที่นายชินวัตรนำเอกสารมามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน หากมีผู้ประสงค์แจ้งความทางตำรวจก็รับแจ้งความไว้ พร้อมรายงานเรื่องและตั้งพนักงานสอบสวนเพื่อเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป ส่วนจะผิดอะไรนั้นต้องดูที่พยานหลักฐาน
นายชินวัตรกล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าเข้าข่ายหรือไม่ ที่ นพ.วรงค์พยายามจะเอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กลับมา ซึ่งอำนาจสุงสุดตามระบอบประชาธิปไตย เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น การที่ นพ.วรงค์พูดเช่นนี้ ก็เท่ากับผิดเต็มๆ อีกทั้งสำนักข่าวทุกสำนักก็รายงานตรงกันหมด
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวร สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า จะรับแจ้งความไว้ก่อน ส่วนจะผิดตามมาตราใดนั้น ไม่ว่าจะเป็น ม.112 หรือ ม.116 ไม่มีปัญหา ถือว่าได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว ที่เหลือจะเป็นกระบวนการสอบสวนว่าจะมีความผิดตามมาตราใด โดยจะลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความ และเรียกสอบปากคำพยานหลายปาก ซึ่งทาง สภ.เมืองนนทบุรี จะทำในลักษณะคณะกรรมการ ไม่ใช่ตนคนเดียว อาจจะมีร้อยเวรหลายท่านมาร่วมสอบสวนด้วย
นายชินวัตรกล่าวภายหลังเข้าแจ้งความว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ กับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี เนื่องจาก นพ.วรงค์มีการแถลงข่าวและโพสต์ว่า ถึงเวลาคืนอำนาจให้สถาบันฯ ด้วยการร่วมแจ้งความ ม.112 ซึ่งตนเป็นหนึ่งในนั้นที่เข้าไปดูแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากข้อความต่างๆ มีการพูดถึงประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครองในแง่ที่ทำให้คิดได้ว่า กำลังจะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือไม่ จึงเชิญชวนคนไทยทั่วประเศที่รักในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขท่านอยู่ใกล้โรงพักที่ไหน ไปแจ้งความกล่าวโทษ นพ.วรงค์ได้ที่นั่น หลักฐานมีมากมาย เข้ากูเกิลก็เจอ วันนี้เราได้แจ้งความดำเนินคดี มาตรา 116 อยู่ที่ดุลพินิจขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะเห็นสมควรฟ้องร้องมาตราใดบ้าง
“อยากฝากถึง นพ.วรงค์ที่พยายามตีรวน พอเราออมกมาพูดความเป็นจริง คุณก็บิดเบือนไปทางอื่น ซึ่งเมื่อวานนี้มีการแถลงข่าว สนับสนุนให้มีการใช้ ม.112 ขณะที่กลุ่มราษฎารให้ยกเลิก ม.112 ออกจากกฎหมายไทย ถ้า นพ.วรงค์จงรักภักดีต่อสถาบันจริง ทำไมจึงไม่ไปแจ้งความกับผู้กองปูเค็มที่มีการจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งมีข้อความชัดเจนที่หน้าเฟซบุ๊กของผู้กองปูเค็ม ไม่มีใครสักคนไปแจ้งความดำเนินดคี ดังนั้น อย่ามาอ้างว่าปกป้อง คุณต่างหากที่เป็นคนห้อยโหน ถ้าคุณยังสนับสนุนให้มีการใช้ ม.112 ถ้ารักสถาบันจริง ช่วยไปดำเนินดคีกับผู้กองปูเค็มด้วย
“ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมแจ้งความกับ นพ.วรงค์ ท่านอยู่ใกล้โรงพักไหน ไปโรงพักนั้น เอาให้เหมือนที่เขาแจ้งความเรา ซึ่งบางครั้งไปแจ้งไกลๆ เหมือนกลั่นแกล้งเรา ซึ่งการที่เราจะเดินทางไปนั้น เสียทั้ง เวลาและเงิน สร้างความวุ่นวายให้เรากลุ่มราษฎร ความจริงไม่อยากแจ้งความกลับ แต่มีความจำเป็น เราต้องการจะดูว่าตำรวจไทยมีสองมาตรฐานหรือไม่ การที่กลุ่มราษฎรมาชุมนุม คุณบอกว่าตอนนี้โรคโควิดระบาด ไม่ควรชุมนุม ตรงกันข้าม ถ้าใส่เสื้อเหลืองไม่มีใครว่า งานคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น ก็มีการตรวจตราของเขา แต่เวลาใส่เสื้อสีเหลืองไปชุมนุม ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์บอกผมว่า อันนั้นไม่ได้เรียกว่าชุมนุม แต่ก็มีเคื่องขยายเสียง มีไมค์โครโฟนเหมือนกับเรา ผมก็ไม่เข้าใจ เลยบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ต่อไปนี้ถ้าผมมาชุมนุมใส่เสื้อเหลืองพี่ไม่ดำเนินคดีใช่ไหม แกก็ยิ้ม ฉะนั้น แสดงว่าประเทศนี้ผู้ยิ่งใหญ่จริงคือคนใส่เสื้อเหลืองใช่หรือไม่ ส่วนผู้กองปูเค็ม ผมจะแจ้งความหรือไม่ คอยติดตามต่อไป” นายชินวัตรกล่าว
‘ไบรท์ ชินวัตร’ เตรียมแจ้งความ ‘หมอวรงค์’ ยุยงปลุกปั่น 10 โมงพรุ่งนี้ ที่ สภ.ท่าน้ำนนท์
