หุ้นไอพีโอยังร้อนแรงไม่หยุด วันที่ 25 ธันวาคม บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ sa ได้เข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก เปิดราคาทันที 7.55 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาไอพีโอที่เสนอขาย 5.50 บาทต่อหุ้น และปรับขึ้นสูงสุด 7.85 บาท ก่อนจะปรับตัวลง ปิดตลาดที่ราคา 5.90 บาท เพิ่มขึ้น 7.27%
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การระดมทุนครั้งนี้ เบื้องต้นจะนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปใช้ชำระคืนสถาบันการเงินเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน โดยจะทำให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ลดลงเหลือประมาณ 1.5 – 1.7 เท่า จาก ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 อยู่ที่ประมาณ 2.1 เท่า และส่วนที่เหลือจะนำไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ขยายการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ 1 โครงการ Blossom Condo @ Fashion 3 ซึ่งมีแผนพัฒนาเป็น Mixed-use Real Estate มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท 2 โครงการ Above 39 มีแผนปรับปรุงเป็นโรงแรมหรือห้องชุดให้เช่าพร้อมบริการภายใต้มาตรฐานโรงแรม มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท และ 3) โครงการ Blossom Condo @ TSH Station มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ
ปัจจุบัน SA มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในมือประมาณ 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 32,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในทำเล CBD และ New CBD กว่า 80% ขณะที่มียอดขายรอโอนกรรมสิทธ์ (Backlog) กว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/63 เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักสำรองต่างๆ ของบริษัทฯ
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-กันยายน) SA มีรายได้รวม 2,060.6 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าแล้ว และมีกำไรสุทธิ 283.9 ล้านบาท จากการที่บริษัทฯ สามารถปรับราคาขายห้องชุดในบางโครงการให้สูงขึ้นได้ และบริหารจัดการต้นทุนก่อสร้างของโครงการใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า SA เป็นบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีศักยภาพ มีการนำความรู้ความสามารถจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาพัฒนา ทั้งด้านต้นทุนและเทคนิคการก่อสร้าง และมีบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาฯ เช่น การให้บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด, ธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายในรูปแบบ Branded Residence, ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น ถือว่ามีจุดแข็งแตกต่างเหนือคู่แข่ง และยังสามารถทำผลการดำเนินงานได้เติบโตต่อเนื่อง แม้ในยามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม จึงได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนในช่วงการจองซื้อหุ้นไอพีโอเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน